ทีมหาเสียงทรัมป์ฟ้องให้รัฐเพนซิลเวเนียและมิชิแกนหยุดนับบัตรเลือกตั้งอ้างอาจมีการโกง
ทีมรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยืนฟ้องศาลในรัฐมิชิแกนและเพนซิลเวเนียเพื่อให้หยุดการนับคะแนน โดยอ้างว่าไม่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงพื้นที่นับคะแนนเพื่อสังเกตการณ์การเปิดหีบเลือกตั้งและการนับคะแนน ซึ่งฝ่าฝืนกฎหมายการเลือกตั้งของรัฐ
แถลงการณ์ของทีมหาเสียงกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งในรัฐเพนซิลเวเนียสมรู้ร่วมคิดกันเพิ่มคะแนนให้ โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต “เรื่องไม่ดีกำลังเกิดขึ้นที่เพนซิลเวเนีย เดโมแครตกำลังวางแผนตัดสิทธิ์และทำให้คะแนนของรีพับลิกันลดลง ประธานาธิบดีทรัมป์และทีมงานกำลังต่อสู้เพื่อหยุดเรื่องนี้”
ขณะนี้ทรัมป์มีคะแนนนำในรัฐเพนซิลเวเนีย แต่คะแนนจากการเลือกตั้งผ่านจดหมาย (Mail-in Voting) ยังนับไม่เสร็จสิ้นและคาดว่าบัตรเลือกตั้งที่เหลือจะทำให้ไบเดนได้คะแนนเสียงเพิ่ม ซึ่งจะทำให้ทรัมป์แทบไม่มีโอกาสชนะการเลือกตั้งหากไม่ได้คะแนนจากรัฐเพนซิลเวเนีย
นอกจากนี้ บิลล์ สตีเพียน หัวหน้าทีมหาเสียงของทรัมป์ ยังเรียกร้องให้นับบัตรเลือกตั้งที่เปิดและนับในช่วงที่ทีมหาเสียงของทรัมป์ไม่ได้เข้าสังเกตการณ์ใหม่ด้วย
ด้านทรัมป์ทวีตถึงการนับคะแนนของทั้งสองรัฐว่า “พวกเขากำลังพยายามอย่างหนักเพื่อให้ 500,000 คะแนนอันมีค่าของเราหายไปอย่างเร็วที่สุด ที่มิชิแกนกับที่อื่นก็เช่นเดียวกัน”
ขณะที่ผู้สนับสนุนทรัมป์จำนวนหนึ่งพากันตะโกนว่า “หยุดนับคะแนน” ด้านนอกจุดนับคะแนนในเมืองดีทรอยต์ของรัฐมิชิแกน
วานิตา กุปตา หัวหน้าแผนกสิทธิมนุษยชนของกระทรวงยุติธรรมในสมัยอดีตประธานาธิบดี บารัก โอบามา เผยว่า การข่มขู่ว่าจะฟ้องของทรัมป์อยู่บนสมมติฐานว่ามีการโกงซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ