การประท้วงเกิดขึ้นในรัฐต่างๆ ทั่วสหรัฐเป็นวันที่สองขณะผลเลือกตั้งยังคงไม่ชัดเจน
เข้าสู่วันที่สองที่ความตึงเครียดในสหรัฐทวีความรุนแรงมากขึ้นโดยการประท้วงเกิดขึ้นเป็นระยะในรัฐต่างๆ ตลอดทั้งวันเนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี และโดนัลด์ ทรัมป์ยังเรียกร้องให้ยุติการนับคะแนน
โดยผู้คนมากกว่า 1,000 คนรวมตัวกันที่ Black Lives Matter Plaza ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทำเนียบขาวเพื่อประท้วงต่อต้านโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่อีกหลายร้อยคนเดินขบวนไปตามส่วนต่างๆ ในวอชิงตัน รวมถึงมีการขัดขวางการจราจรและจุดประทัด พร้อมกล่าวว่า "ถนนของเรา ถ้าเราไม่ได้รับความยุติธรรมพวกเขาก็จะไม่ได้รับความสงบสุข"
รวมถึงในพอร์ตแลนด์, โอเรกอน และซีแอตเทิลมีผู้คนหลายร้อยคนออกมาเดินขบวนต่อต้านทรัมป์เช่นกัน โดยในผู้ชุมนุมในพอร์ตแลนด์กล่าวว่าการชุมนุมเป็นไปอย่างสันติเพื่อสนับสนุนความยุติธรรมทางเชื้อชาติ ขณะที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าเห็นผู้ชุมนุมบางคนถือปืนอย่างเปิดเผย ทั้งนี้ส่งผลให้ผู้ชุมนุมบางส่วนถูกจับกุมตัว
ขณะที่เจ้าหน้าที่ในซีแอตเทิลกล่าวว่าได้จับกุมผู้ชุมนุมหลายคนเนื่องจากมีการวางตะปูขวางถนน, ขับรถข้ามเครื่องกีดขวาง และขับรถเข้าไปในเลนของตำรวจ
เช่นเดียวกับในเพนซิลเวเนียมีการเดินขบวนประท้วงหลังพรรครีพับลิกันยื่นฟ้องโดยกล่าวหาว่ามีการโกงการเลือกตั้ง ขบวนประท้วงมุ่งหน้าไปยังศูนย์การประชุมเพนซิลเวเนียขณะที่กำลังมีการนับคะแนนผลการเลือกตั้ง โดยหนึ่งในกลุ่มผู้ชุมนุมเชื่อว่า "ระบบที่กำลังพยายามหยุดการนับคะแนนเป็นระบบเดียวกับกรณีที่วอลเตอร์ วอลเลซ ชายผิวดำถูกตำรวจกระหน่ำยิงจนเสียชีวิต"
รวมถึงในโคโลราโดมีเหตุการณ์ปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มผู้ชุมนุมโดยมีการเดินขบวนประท้วงที่ถนนในเมืองเดนเวอร์ก่อนที่ตำรวจจะเข้าสลายการชุมนุมและจับกุมตัวผู้ประท้วง
นอกจากนี้กรมตำรวจลอสแองเจลิสยังได้มีการประกาศเตือนภัยเป็นวันที่สองติดต่อกัน และในแมริแลนด์มีการเดินขบวนตามท้องถนนเพื่อเรียกร้องให้นับบัตรลงคะแนนทั้งหมดเช่นกัน
ขณะที่ในรัฐแอริโซนามีกลุ่มผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ รวมตัวกันบริเวณคูหาเลือกตั้งหลังจากที่ทรัมป์กล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีการโกง