WORLD NEWS

โดย M2F Writer

10 มีนาคม 2562 : 17:06 น.

โดย วริศรา นรินทร

เมื่อจู่ๆ ก็รู้สึกหมด “Passion” กับงานที่กำลังทำอยู่ เพราะค้นพบว่าตัวเองมีสิ่งที่ต้องการทำมากกว่า หรือรู้สึกสนใจมากกว่า จนทำให้เกิดความสับสน สมองซ้ายขวาตีกันยุ่ง และเกิดการตั้งคำถามว่าจะจัดการกับชีวิตตัวเองต่อไปอย่างไรดี

งานวิจัยใหม่ของ GoBankingRates ที่ปรึกษาข้อมูลทางการเงิน ในลอสแองเจลิส ฉบับตีพิมพ์เดือน ม.ค. 2019 พบว่า 23% ของชาวอเมริกันพวกเขาเสียใจที่เปลี่ยนงานหรือตัดสินใจเบนเข็มเปลี่ยนอาชีพ แม้ว่าเหล่าพนักงานจะมีเหตุผลในการลาออกที่แตกต่างกันหลากหลายประการ แต่กลับไม่มีปัจจัยใดๆ โดดเด่น งานวิจัยชี้ว่า ผู้ชายและผู้หญิงเปลี่ยนงานด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน ผู้ชาย 16% มีแนวโน้มที่จะออกจากงานเพราะต้องการอัพเงินเดือน ในขณะที่ผู้หญิงราว 14% ลาออกเพราะต้องการหนีสภาพแวดล้อมที่ไม่พึงใจในที่ทำงาน

ภาพ : รอยเตอร์ส

ดังนั้น หากคุณกำลังคิดที่จะเปลี่ยนงาน และไม่อยากมานั่งเสียใจทีหลัง อย่าเพิ่งรีบร้อนลาออก งานวิจัยบอกว่า เราต้องเช็กความต้องการของตัวเองก่อน ด้วยการตอบคำถามทั้ง 3 ข้อนี้

1.จริงๆ แล้วเราอยากทำงานแบบไหน

เมื่อมีงานมากมายหลายประเภท ต้องถามตัวเองก่อนว่า งานแบบไหนที่เราอยากจะทำ บางคนอาจจะเลือกงานประจำเต็มเวลาเหมือนเดิม เนื่องจากมีความมั่นคงทั้งในแง่ของรายได้และโอกาสที่จะก้าวหน้า ซึ่งเป็นทางเลือกที่พบได้บ่อยมากที่สุด คือการเปลี่ยนงานจากบริษัทหนึ่งไปอีกบริษัทหนึ่ง แต่หากคุณกำลังมองหาเวลาทำงานที่ยืดหยุ่น หรือ โอกาสที่จะได้งานทำทันที งานเต็มเวลาอาจไม่ใช่คำตอบ ในปี 2018 ชาวอเมริกันกว่า 56.7 ล้านคน หันไปเป็น “ฟรีแลนซ์” แต่งานประเภทนี้ย่อมมีความเสี่ยงกว่างานประจำ แต่มีความยืดหยุ่น ระยะสั้น และรายได้ดี

ภาพ : รอยเตอร์ส

2.สถานะทางการเงินพร้อมไหมเมื่อคิดจะเปลี่ยนงาน

อีกหนึ่งสิ่งที่ควรคำนึงคือ สถานะทางการเงินในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากลาออกจากงานในระหว่างที่ยังไม่ได้งานใหม่ หากไม่มีทุนสำรองไว้ จะกลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ก่อความเครียดให้กับคุณไม่น้อย Nerdwallet บริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน ในซานฟรานซิสโก แนะนำว่า ให้สำรองค่าครองชีพไว้อย่างน้อย 6 เดือน หากคุณวางแผนที่จะลาออกโดยไม่ได้หางานใหม่รองรับไว้ ส่วนผู้ที่จะออกมาทำธุรกิจของตัวเอง ควรจะมีเงินทุนสำรองไว้เป็นอย่างน้อย 1 ปี เพื่อป้องกันความล้มเหลวทางธุรกิจที่อาจเกิดขึ้น

ภาพ : เอเอฟพี

3.แผนนี้มีศักยภาพในระยะยาวหรือไม่ 

สำหรับพนักงานประจำ ควรจะศึกษาโปรไฟล์บริษัทที่กำลังจะไปสมัคร ลองเข้าไปเช็กรีวิวในเว็บไซต์สมัครงาน เพื่อดูว่าพนักงานคนปัจจุบันและอดีตคิดเห็นอย่างไรกับองค์กร มีความเห็นเชิงลบมากน้อยแค่ไหน โดยหากมีพนักงานอ้างถึงโอกาสเติบโตที่จำกัด ก็ให้ตัดสินใจอย่างระมัดระวัง ส่วนผู้ที่เลือกจะเป็นฟรีแลนซ์ หรือผู้ประกอบการ จะต้องตอบคำถามที่ซับซ้อนมากขึ้นเกี่ยวกับแผนงานและธุรกิจต่างๆ อย่างการทำวิจัยคำถามที่สำคัญที่สุด 2 ข้อ คือ เราจะนำเสนออะไร และเป็นที่ต้องการของตลาดหรือเปล่า?

ไม่ว่าคุณจะออกจากงานเก่าด้วยเหตุผลอะไร เพิ่มรายได้ ความยืดหยุ่น หรือทั้งสองอย่าง อย่าโบยบินจนกว่าคุณจะพร้อม ถามคำถามเหล่านี้กับตัวเองเพื่อวางแผนอย่างรัดกุม สุดท้ายแล้วเมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ คุณก็สามารถส่งจดหมายลาออกได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องมานั่งกลุ้มใจในภายหลัง

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ