นักวิชาการญี่ปุ่นศึกษาภาษาอีกา เพื่อเจรจากับสัตว์ให้ย้ายที่อยู่ แก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์อย่างสันติวิธี
นะโอะกิ สึคะฮะระ ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมอีกา ได้รับมอบหมายจากทางการเมืองยะมะงะตะ พื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ ให้จัดการกับสัตว์ปีกกลุ่มนี้ ซึ่งทำลายพืชผลทางการเกษตรของประชากร สร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่าราว 70,000 เหรียญสหรัฐต่อปี
สึคะฮะระจึงเลือกเก็บตัวอย่างเสียงร้องของกามาวิเคราะห์กับพฤติกรรมของมันขณะเปล่งเสียงนั้นๆ และเชื่อว่ากามีภาษาที่ใช้สื่อสารของตัวเอง ซึ่งประกอบด้วยคำหลักๆ อยู่ 40 คำ เช่น "เจออาหารแล้ว" หรือ "ที่นี่ปลอดภัย"
เบื้องต้น วิธีไล่กาอย่างละมุนละม่อมอยู่ในขั้นตอนการทดลอง เช่น ทดลองใช้เสียงกาเรียกให้ฝูงกามาอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด ซึ่งผลลัพธ์บ่งชี้ไปในทางบวกและมีแนวโน้มได้ผล
อย่างไรก็ดี ก็ยังมีการทดลองอื่นที่ล้มเหลว เช่น การใช้โดรนติดลำโพงเปิดเสียงการ้องขอความช่วยเหลือ แต่กากลับบินหนีไป แต่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกาก็ยังไม่ยอมแพ้ และกล่าวว่าจะพยายามพัฒนาวิธีการต่อไป ให้ถึงขั้นที่มนุษย์สามารถสื่อสารโต้ตอบกับกาได้ทันที และคิดหานวัตกรรมอื่นๆ มาใช้เป็นตัวช่วยให้กากับมนุษย์สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ
ทั้งนี้ อีกาถือเป็นสัตว์แห่งเทพเจ้าตามคติของชาวญี่ปุ่น ในหนังสือ Studies in Shinto and Shrines ของ Richard Ponsonby-Fane อ้างอิงในิวกิพีเดีย (อีกาสามขา) ระบุว่า อีกาสามขา เป็นนกประจำองค์ อะมะเตะระสุ เทพีแห่งดวงอาทิตย์
ในนิฮงโชะกิ อันเป็นพงศาวดารญี่ปุ่น ได้บันทึกว่า จักรพรรดิจิมมุ ซึ่งทรงเป็นปฐมจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น เมื่อครั้งยังทรงเป็นนักรบธรรมดา เมื่อพระองค์รบแพ้ นะงะซุเนะฮิโกะ พระองค์ตระหนักว่าการที่พระองค์และพรรคพวกรบแพ้ เพราะเป็นการรบที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกซึ่งเข้าหาดวงอาทิตย์ ดังนั้นแล้ว พระองค์จึงตัดสินใจย้ายมาอยู่ทางด้านตะวันออกของคาบสมุทรกิอิ เพื่อที่จะรบไปทางทิศตะวันตก ทั้งนี้เป็นการชี้นำโดย อีกาสามขา ชาวญี่ปุ่นจึงถือว่าอีกาสามขาเป็นนกศักดิ์สิทธิ์ ด้วยเป็นผู้ที่ทำให้ญี่ปุ่นได้สร้างชาติขึ้นมา