ไทม์ไลน์ของคดีปริศนาที่สั่นสะเทือนมหาอำนาจ
ในเวลานี้โลกกำลังจับตาการกรณีการหายตัวไปของญะมาล คาชุกญี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุดีอระเบียที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล จนต้องลี้ภัยในต่างแดน และต่อมาปรากฎตัวครั้งสุดท้ายที่สถานการกงสุลซาอุฯ ในนครอิสตันบุล ประเทศตุรกี ทำให้ทางการตุรกีทวงถามความจริงจากอีกฝ่าย แต่ซาอุฯ อ้างว่า คาชุกญีเดินทางออกไปแล้ว
แต่เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ซาอุฯ ยอมรับว่า คาชุกญีเสียชีวิตแล้วในสถานกงสุลนั่นเอง ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจหยามศักดิ์ศรีของเจ้าของประเทศอย่างยิ่ง แม้ว่าจะเกิดขึ้นสถานกงสุลที่ได้รับการคุ้มครองทางการทูต แต่เรื่องนี้ถือเป็นคดีอาญา และเหยื่อยังเป็นผู้สื่อข่าวที่มีชื่อเสียงในด้านการต่อสุ้เพื่อสิทธิมนุษยชน จนทำให้สหรัฐ ซึ่งเป็น "เจ้าแห่งสิทธิมนุษยชน" ต้องถูกดึงมาเอี่ยวด้วย และกัดฟังคว่ำบาตรมหามิตรอย่างซาอุฯ เพื่อรักษาหลักการตัวเอง อย่างไรก็ตาม มีแหล่งข่าวระบุว่า คาชุกญีอาจจะมีความสำคัญมากกว่าในด้านข่าวกรองและความมั่นคงของซาอุฯ ต่อไปนี้ลำดับเวลาคร่าวๆ ของกรณีสังหารสะเทือนโลก
เดือนก.ย. 2017 คาชุกญี ลี้่ภัยจากซาอุฯ หลังจากเขียนบทความวิจารณ์มกุฏราชกุมารและกษัตริย์ และต่อต้านการแทรกแซงของซาอุฯ ในสงครามกลางเมืองเยเมน
วันที่ 2 ต.ค. 2018 เวลา 13.00 น. คาชุกญีปรากฎตัวครั้งสุดท้ายที่ทางเข้าสถานกงสุลซาอุฯ ในอิสตันบุล เพื่อขอเอกสารยืนยันการหย่าจากภรรยาคนก่อน และต่งงานใหม่กับคู่หมั้นชาวตุรกี
วันที่ 2 ต.ค. เวลา 16.00 น. คาชุกญีไม่ได้ออกมาจากสถานกงสุล ทั้งๆ ที่ปิดทำการไปแล้วครึ่งชั่วโมง คู่หมั้นของเขาแจ้งความกับตำราจ
วันที่ 3 ต.ค. ทางการซาอุฯ ยืนยันว่าเขาออกไปแล้ว โดยใช้ทางออกด้านหลัง แต่ทางการตุรกีเชื่อว่าเขายังอยู่ข้างใน และคู่หมั้นกะบมิตรสหายยืนยันว่าเขายังหายตัวไป
วันที่ 9 ต.ค. ทางการตุรกีอ้างว่ากล่องวงจรปิดในวันเกิดเหตุหายไป และเจ้าหน้ที่สถานการกงสุลถูกสั่งให้ลาพักร้องอย่างกระทันหันในวันที่คาชุกญีหายตัวไป
วันที่ 13 ต.ค. ทางการตรุกีกล่าวว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งด้าหน้าและด้านหลัง ไม่พบว่าคาชุกญีเดินทางออกจากสถานกงสุล
วันที่ 14 ต.ค. ประธานาธิบดีตุรกีและกษัตริย์ซาอุดีอาระบียตกลงที่จะทำงานสืบสวนข้อเท็จจริงร่วมกัน ตุรกีพบหลักฐานบ่งชี้ว่าคาชุกญีอาจถูดกฆาตกรรม ด้วยการฆ่าหั่นศพไปทิ้งในที่ห่างไกล
วันที่ 15 ต.ค. โดนัลด์ ทรัมป์โทรศัพท์ถึงกษัตริย์ซาอุฯ อีกฝ่ายยืยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็น
วันที่ 16 ต.ค. รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเดินทางไปซาอุฯ เพื่อย้ำถึงความกังวลในเรื่องนี้ ขณะเดียวกันสื่อทั่วโลกเริ่มรายงานข่าวโดยอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนาม ระบุว่าคาชุกญีถูกทรมานจนตายบ้าง ถูกหั่นศกจนตายทั้งเป็นบ้าง
วันที่ 17 ต.ค. สื่อสายตรงของผู้นำตรุกี คือ Daily Sabah เผยรายชื่อชาวซาอุฯ 15 คนที่เดินเข้าตุรกีมาเป็นทีม คาดว่าเป้นทีมสังหารคาชุกญี ในจำนวนนี้ 7 คนเป็นองครักษ์ของกษัตริย์
วันที่ 19 ต.ค. กระทรวงการต่างประเทศซาอุฯ ยอมรับในที่สุดคาชุกญีเสียชีวิต จากการชกต่อยกันในสถานกงสุล เป็นครั้งแรกที่ซาอุฯ ยอมรับ
วันที่ 20 ต.ค. ทรัมป์หารือกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้มาตรการคว่ำบาตรซาอุฯ อย่างเหมาะสม
วันที่ 22 ต.ค. มีการเปิดเผยว่า ซาอุดีอระเบียส่งคนหน้าเหมือนคาชุกญีไปยังอิสตันบุล เพื่ออำพรางร่องรอบ และทำให้การสืบสวนตามรอยต้องไขว้เขว
วันที่ 23 ต.ค. ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน แห่งตุรกี ประกาศว่าจะเปิดเผยความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับกรณีการเสียชีวิตของคาชุกญี