ถือเป็นเกมสำคัญที่สุดอีกเกมหนึ่งนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลมาเลยก็ว่าได้ สำหรับศึกพรีเมียร์ลีกคู่บิ๊กแมทช์ระหว่างสองทีมในกลุ่มลุ้นแชมป์อย่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมเปิดบ้าน ปะทะ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในคืนวันพฤหัสบดีที่ 3 ม.ค. เวลา 03.00 น.
ก่อนลงสนาม ลิเวอร์พูลสยายปีกครองจ่าฝูงโดยมีอยู่ 54 แต้มจาก 20 นัด ตามด้วยอันดับสอง สเปอร์ส มี 48 แต้ม แต่ลงเตะมากกว่าหนึ่งนัด หลังจากทีมไก่เดือยทองเพิ่งบุกไปถล่มคาร์ดิฟฟ์ 3-0 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่แมนฯ ซิตี้รั้งอันดับ 3 ตามหลังจ่าฝูง 7 แต้ม ดังนั้น ทีมเรือใบสีฟ้าจำเป็นต้องเก็บชัยชนะให้ได้ เพื่อลดช่องว่างให้เหลือ 4 แต้ม แต่ในทางตรงกันข้าม หากลิเวอร์พูลบุกมาคว้าชัยกลับบ้าน ระยะห่างจะเพิ่มเป็น 10 แต้ม ซึ่งนั่นหมายถึง โอกาสลุ้นแชมป์ของแมนฯ ซิตี้ที่จะริบหรี่ลงทันที
“ลิเวอร์พูลทำผลงานได้ดีมากในฤดูกาลนี้ แต่เราต้องโฟกัสมาที่ทีมของเราเอง ซึ่งพวกเรายังมั่นใจในสไตล์การเล่นของทีม และเชื่อว่ามันมีประสิทธิภาพที่จะนำเราไปสู่ชัยชนะได้ ขณะเดียวกัน ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือเกมสำคัญของทั้งสองทีม เพราะมันเป็นการเจอกันโดยตรงของ 2 ทีมหัวตาราง ซึ่งมันจะส่งผลกระทบไปจนถึงท้ายฤดูกาลแน่นอน” เซร์คิโอ อกูเอโร่ หัวหอกของแมนฯ ซิตี้ กล่าว
เกมนี้เจ้าถิ่นมีปัญหาที่ตำแหน่งแบ็กซ้ายเมื่อ เบนฌาแม็ง เมนดี้ เจ็บยาว ส่วน ฟาเบียน เดลฟ์ ติดโทษแบน ทำให้กุนซือ เปป กวาร์ดิโอล่า อาจต้องโยก ดานิโล่ จากแบ็กขวาไปยืนเป็นแบ็กซ้ายแทน หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือใช้บริการดาวรุ่งอย่าง โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้
ส่วนแดนกลาง เควิน เดอ บรอยน์ กับ อิลคาย กุนโดกัน มีอาการบาดเจ็บ แต่ยังมี ดาบิด ซิลบา แบร์นาโด้ ซิลบา และแฟร์นันดินโญ่ พร้อมลงเล่นแทน ขณะที่ 3 ประสานแนวรุกประกอบด้วย อกูเอโร่ ราฮีม สเตอร์ลิง และเลรอย ซาเน่
ด้านลิเวอร์พูลเตรียมปรับเปลี่ยนผู้เล่นบางตำแหน่งจากเกมล่าสุดที่ถล่มอาร์เซน่อล 5-1 โดย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มิดฟิลด์กัปตันทีมจะได้กลับมาเป็นตัวจริงแทน ฟาบินโญ่ นอกจากนี้ แซร์ดาน ชากิรี่ อาจจะถูกดร็อปไปเป็นสำรอง เพื่อเปิดทางให้ นาบี เกอิต้า ลงมาช่วยแพ็คเกมแดนกลางให้แน่น รวมทั้ง เจมส์ มิลเนอร์ ก็หายเจ็บพร้อมกลับมาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกส่วนตำแหน่งอื่นยังคงเป็นคีย์แมนชุดเดิม ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ซึ่งเพิ่งตะบันแฮตทริกใส่ทีมปืนใหญ่ในนัดที่แล้ว