เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ก็จะลงประเดิมสนามในศึกเอเชี่ยน คัพ 2018 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยจะลงเตะนัดแรก พบกับ อินเดีย ในวันอาทิตย์ที่ 6 ม.ค. แต่ก่อนจะไปถึงวันนั้น เรามาทำความรู้จักกับ 3 ทีมคู่แข่งของไทยในกลุ่มเอกันก่อน
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ทัพนักเตะยูเออีถูกยกให้เป็นอีกหนึ่งทีมเต็งลำดับต้นๆ ที่มีโอกาสสอดแทรกขึ้นไปคว้าแชมป์ เพราะนอกจากจะได้เปรียบจากการลงเล่นในถิ่นของตัวเองแล้ว พวกเขายังมีแม่ทัพฝีมือดีอย่าง อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี่ อดีตกุนซือดังของเอซี มิลาน เป็นผู้กุมบังเหียนอยู่
ส่วนขุมกำลังของยูเออีชุดนี้ แม้จะไม่มี โอมาร์ อับดุลราห์มาน เพลย์เมกเกอร์หัวฟูที่พักไปผ่าตัดรักษาอาการเจ็บเข่า แต่ผู้เล่นที่เหลือก็ยังคงแข็งแกร่ง โดยนักเตะหลายคนอยู่ในชุดที่คว้าอันดับ 3 เอเชี่ยน คัพครั้งที่แล้ว โดยเฉพาะ 2 หัวหอกตัวทีเด็ด อาห์เหม็ด คาลิล กับ อาลี มาบฮูต
บาห์เรน
แม้ชื่อชั้นของบาห์เรนอาจจะดูไม่แข็งแกร่งเท่ากับทีมจากตะวันออกกลางชาติอื่นอย่าง อิรัก อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย หรือกาตาร์ แต่ทีมชาติไทยมักเจองานยากทุกครั้งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งจากย่านนี้ รวมถึงบาห์เรน ซึ่งแข้งช้างศึกจะประมาทไม่ได้เป็นอันขาด
ทีมชาติบาห์เรนชุดนี้มี มิโรสลาฟ ซูคูบ เฮดโค้ชชาวเช็ก นั่งเก้าอี้กุนซือ ส่วนคีย์แมนนำทัพมาโดย อับดุลลา เฮลาล ดาวยิงวัย 25 ปี จากสโมสรโบฮีเมียนส์ ในลีกลูกหนังสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ยกให้เป็นหนึ่งในนักเตะที่น่าจับตามองของทัวร์นาเม้นท์เลยทีเดียว
อินเดีย
นับตั้งแต่ สตีเฟน คอนสแตนติน กุนซือชาวอังกฤษ เข้ามาคุมอินเดียเมื่อปี 2015 ทัพนักเตะจากแดนภารตก็มีพัฒนาการขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยจากเดิมที่เคยอยู่อันดับ 166 ของโลกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ปัจจุบันอินเดียกระโดดขึ้นมารั้งที่ 97 ของโลก ซึ่งเหนือกว่าบาห์เรน ที่อยู่อันดับ 113 และไทย อันดับ 118 ของโลก ส่วนยูเออีอยู่ที่ 79 ของโลก
ขณะเดียวกัน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีที่ทีมชาติอินเดียได้เข้ามาโชว์ฝีเท้าในศึกเอเชี่ยน คัพ รอบสุดท้าย ซึ่งนักเตะที่น่าจับตามองของพวกเขาคือ ซูนิล เชตรี หัวหอกกัปตันทีมจอมเก๋าวัย 34 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของสถิติลงสนามและยิงประตูให้กับทีมชาติอินเดียมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยผลงานลงรับใช้ชาติ 103 นัด ยิงได้ 65 ประตู