สมาชิก 14 จากทั้งหมด 15 ประเทศเห็นด้วยกับแถลงการณ์หยุดยิง มีเพียงสหรัฐที่คัดค้านคำสั่งดังกล่าว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าในระหว่างการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันอาทิตย์ (16 พ.ค.) ที่ผ่านมาเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาสที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยสมาชิก 14 จากทั้งหมด 15 ประเทศเห็นด้วยกับแถลงการณ์หยุดยิง มีเพียงสหรัฐที่คัดค้านคำสั่งดังกล่าว
เช่นเดียวกับการประชุมเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมาสหรัฐก็เป็นเพียงประเทศเดียวที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการแก้ปัญหาของที่ประชุมโดยมองว่าไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น
ด้านหวังอี้ รัฐมนตรีว่าการทระทรวงการต่างประเทศของจีนก็ได้วิพากษ์วิจารณ์ว่าสหรัฐขัดขวางการลงมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติโดยระบุว่า "คณะมนตรีความมั่นคงมีหน้าที่หลักในการปกป้องสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ น่าเสียใจที่เสียงแตกเพียงเพราะการขัดขวางของประเทศเดียว"
นอกจากจีนแล้วสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงประเทศอื่นๆ รวมถึงไอร์แลนด์ นอร์เวย์ และเม็กซิโกก็ย้ำว่าการเรียกร้องให้หยุดยิงเป็นปัญหาเร่งด่วนอย่างยิ่งในขณะนี้
ต่อมาลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติกล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐกำลังดำเนินการอย่างสุดความสามารถเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและเจรจาบนพื้นฐานหลักการสองรัฐ
ขณะที่แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐกล่าวว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นต้องยุติทันที
อย่างไรก็ตามแม้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้จัดประชุมครั้งใหม่เพื่อหาแนวทางยุติความขัดแย้งแต่อิสราเอลยังคงยกระดับการใช้ความรุนแรงในฉนวนกาซาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42 รายภายในวันเดียว ในจำนวนนี้เป็นเด็กอย่างน้อย 10 ราย ซึ่งนับว่าเป็นวันที่นองเลือดที่สุดนับตั้งแต่เกิดการโจมตีขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์ก่อน
ด้านกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์รายงานว่าการสู้รบครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 192 รายเป็นเด็กอย่างน้อย 58 ราย และในอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์สตีเฟน ซูเนส นักวิชาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการเมืองในตะวันออกกลางจากมหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโกกล่าวว่าหลายครั้งที่ความพยายามที่จะประณามอิสราเอลถูงขัดขวางโดยหน่วยงานของสหรัฐโดยสหรัฐได้คัดค้านมติที่วิพากษ์วิจารณ์อิสราเอลไปแล้วไม่น้อยกว่า 45 มติ
Photo by Nicholas Kamm / AFP