ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คือผู้นำสหรัฐคนที่ 3 ในที่ถูกสภาผู้แทนฯลงมติถอดถอน
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ได้ลงมติรับรองบทบัญญิต 2 ข้อว่าด้วยการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยมติแรกคือ การถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ในข้อหาใช้อำนาจโดยมิชอบ กับมติที่สองคือ ขัดขวางกระบวนการตรวจสอบของรัฐสภา
สภาผู้แทนฯสหรัฐลงมติแรก "ใช้อำนาจโดยมิชอบ" ด้วยคะแนนเสียง 230 ต่อ197เสียง
ขณะที่มติที่สองคือ "ขัดขวางการตรวจสอบของรัฐสภา" ด้วยคะแนน 229 ต่อ 198 เสียง
ธุรกิจโฆษณา inRead invented by Teadsมะกันรวมตัวชุมนุม หนุนถอดถอนทรัมป์คาดสัปดาห์หน้าสภาผู้แทนฯสหรัฐ โหวตญัตติถอดถอนทรัมป์หุ้นไทย19ธ.ค.ปิดเช้าร่วง 3.40จุดในการโหวตรับรองทั้งสองญัตติไม่มีคะแนนเสียงใดจากฝั่งรีพับลิกกัน ซึ่งเป็นพรรคที่ประธานาธิบดีทรัมป์สังกัด ลงคะแนนโหวตเห็นชอบถอดถอนเลย
ผลการลงมติทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้นำคนที่สามในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกัน ที่ถูกสภาล่างตั้งข้อหาขอถอดถอน
ยกที่สอง
หลังจากนี้วุฒิสภาสหรัฐ จะเริ่มกระบวนการพิจารณาพร้อมลงมติว่าจะถอดถอนประธานาธิบดีหรือไม่ในเดือนมกราคมปี 2020 โดยที่ประชมวุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งพรรครีพับลิกกันครองเสียงข้างมากอยู่นั้น จะต้องลงมติด้วยคะแนนเสียงอย่างน้อย 2 ใน 3 ของวุฒิสภาซึ่งมีทั้งหมด 100 เสียง จึงจะมีผลให้ประธานาธิบดีถูกถอดถอน
เป็นที่สังเกตว่า ในการมติของสภาล่างสหรัฐ ไม่มีส.ส.คนใดจากฝั่งรีพับลิกกันโหวต"เห็นชอบ" ถอดถอนทรัมป์เลย เรื่องดังกล่าวจึงมีความเป็นไปได้สูงที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะไม่ถูกถอดถอน เพราะพรรครีพับลิกกันครองเสียงข้างมากอยู่ในวุฒิสภา
ในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ มีประธานาธิบดีถูกถอดถอนในสภาล่างมากแล้วสองครั้ง คือในสมัยประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน ผู้นำคนที่ 17 ของสหรัฐ กับคนที่สองคือประธานาธิบดีบิล คลินตัน ซึ่งทั้งคู่ถูกสภาล่างทำหน้าที่ตั้งข้อหาไต่สวนเพื่อถอดถอน แต่วุฒิสภาไม่เห็นชอบกับข้อกล่าวหาทั้งสอง ส่วนกรณีของประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน เขาได้ลาออกก่อนที่กระบวนการดังกล่าวจะเสร็จสิ้น