สหรัฐขึ้นบัญชีดำห้าม 4 นายพลกองทัพเมียนมา ข้อหามีส่วนทารุณโรฮีนจา ขณะที่ "ซูจี" ขึ้นให้การศาลโลกสู้ข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
รัฐบาลสหรัฐโดยกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงการคลัง ได้มีคำสั่งประกาศคว่ำบาตรบุคคลต่างชาติ 20 เนื่องในวันสิทธิมนุษยชนเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยจำนวน 20 คนนี้ มี 4 คนที่ถือเป็นผู้นำทางทหารระดับสูงของเมียนมา
4 รายดังกล่าวรวมถึงพลเอก มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพเมียนมา และผู้นำทางทหารระดับสูงในทัพเมียนมาอีก 3 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกสั่งห้ามเดินทางเข้าสหรัฐมาแล้ว จากข้อหาที่สหรัฐระบุว่า ผู้นำทัพเมียนมาทั้ง 4 มีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนชนกลุ่มน้อยโรฮีนจา
ภายใต้คำสั่งคว่ำบาตรใหม่ จะรวมถึงการอายัดทรัพย์สินในสหรัฐ รวมถึงห้ามทำธุรกรรมใดๆกับสหรัฐ ไม่ว่าเป็นสถาบันการเงิน หรือนิติบุคคล
คำสั่งดังกล่าว มีขึ้นในวันเดียวกับที่นางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา อยู่ระหว่างปรากฎตัวที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ในกรุงเฮก ของเนเธอร์แลนด์ ในการสู้คดีที่ถูกแกมเบีย ประเทศมุสลิมในแอฟริกาเป็นผู้ยื่นฟ้องว่า ทางการเมียนมาได้กระทำการละเมิดต่อสิทธิมนุษยชนชาวโรฮีนจา
การปรากฏตัวต่อศาลโลกของนางซูจี ได้ถือว่าเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเธอไปอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่เคยเป็นสตรีซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตย แต่ด้วยท่าทีที่นิ่งเฉยต่อปัญหาโรฮีนจา ทั้งเธอยังออกมาปกป้องการกระทำของเจ้าหน้าที่กองทัพเมียนมา ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในตัวเธอจากนานาชาติและนานาองค์กรระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ แม้จะมีเสียงวิจารณ์จากนานาชาติถึงท่าทีของเธอต่อปัญหาโรฮีนจา แต่ในระหว่างการปรากฏตัวที่ศาลโลก ได้มีผู้สนับสนุนบางส่วนรอให้กำลังใจเธออยู่ด้านหน้าที่ทำการศาลโลกในกรุงเฮก เช่นเดียวกับที่นครย่างกุ้ง ต่างก็มีผู้สนับสนุนเดินขบวนให้กำลังใจเธอไปในหลายเส้นทางของนครย่างกุ้งเช่นกัน