โดย วริศรา นรินทร
ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัยแต่แฟชั่นกางเกงยีนส์ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นไอเท็มที่เชื่อว่าหลายๆ คนต้องมีติดไว้ในตู้ เสื้อผ้ากันอย่างแน่นอน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าอุตสาหกรรมการผลิตกางเกงยีนส์นั้น ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างที่เราไม่เคยคาดคิดกันมาก่อนเลยทีเดียว
ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา Amour Vert แบรนด์แฟชั่นจากซานฟรานซิสโก ได้ให้ความสำคัญกับการผลิตเสื้อผ้าที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กระทั่งปี 2018 ได้ร่วมมือกับแบรนด์กางเกงยีนส์ AGOLDE เปิดตัว “กางเกงยีนส์รักษ์โลก” ที่พวกเขาการันตีว่าเป็นกางเกงยีนส์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลก
ผู้หญิงอเมริกันมีกางเกงยีนส์โดยเฉลี่ยราวคนละ 7 ตัว และผลวิจัยล่าสุดพบว่า การผลิตกางเกงยีนส์แต่ละตัวนั้น ต้องใช้น้ำถึง 1,800 แกลลอน สำหรับการชะล้างซ้ำๆ เพื่อให้ได้สีที่เหมาะสมและสม่ำเสมอ ซึ่งปริมาณดังกล่าวเทียบเท่ากับน้ำดื่มสำหรับคนอเมริกันเฉลี่ย 30 ปี สะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นหนึ่งในกระบวนการสร้างผลกระทบมากที่สุดในภาวะวิกฤติน้ำโลกเช่นนี้ Amour Vert จึงได้ผุดแนวทางใหม่ในการหลีกเลี่ยงขั้นตอนการผลิตที่ทำลายสิ่งแวดล้อม
Amour Vert ได้ร่วมมือกับ AGOLDE ซึ่งเป็นผู้ผลิตผ้ายีนส์ในลอสแองเจลิส เนื่องจากโรงงานแห่งนี้ใช้เทคโนโลยีมาหลายปีและรู้แนวทางว่าจะทำอย่างไร เพื่อเปลี่ยนผ้ายีนส์จากเสื้อผ้าที่เป็นมลพิษให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน
กางเกงยีนส์รักษ์โลก AGOLDE x Amour Vert ใช้เทคโนโลยีการชะล้างด้วยโอโซน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้ไฟฟ้าและแก๊สที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ โดยขั้นตอนดังกล่าวนั้นใช้น้ำน้อยกว่า 1 ใน 10 ของวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ ยังลดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น การฟอกขาว แต่เปลี่ยนมาใช้เลเซอร์เพื่อตรวจสอบสีและความกลมกลืนแทน
อแมนดา ฮาลเปอร์ ซาลิแนส ผอ.ฝ่ายการตลาดของ Amour Vert กล่าวว่า แม้ว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นที่กำลังขับเคลื่อนจะเป็นปัจจัยสำคัญในการก่อให้เกิดมลพิษทั่วโลก แต่แบรนด์เล็กๆอย่าง Amour Vert เห็นความสำคัญของปัญหานี้ และพยายามอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อหยุดยั้งการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และให้ทางเลือกด้านจริยธรรมแก่ลูกค้ามากขึ้นด้วยการสนับสนุนสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่เรายอมรับว่าการผลิตกางเกงยีนส์ ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นงานที่ยากที่สุด
ในปีนี้ AGOLDE x Amour Vert ได้ออกไลน์สินค้าใหม่ ซึ่งจะใช้ผ้าฝ้ายออร์แกนิคที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน เนื่องจากผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคจะผ่านกรรมวิธีปลูกโดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลงและสารเคมี โดยบริษัทคาดการณ์ว่าจะสามารถลดการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ราว 46 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงลดการใช้น้ำอีก 91 เปอร์เซ็นต์ และการทิ้งน้ำเสียที่ปนเปื้อนกรด
แม้ว่าจะเป็นกางเกงยีนส์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเช่นนี้ แต่เรื่องแฟชั่น Amour Vert ก็ให้ความสำคัญเช่นกัน ในปี 2018 มีกางเกงยีนส์ทั้งหมด 3 แบบ 9 สี ทั้งสกินนี่ เดฟ และทรงกระบอก ราคาอยู่ที่ 148-198 เหรียญสหรัฐ (ราว 5,000-6,500 บาท) เฟรดเดริโก แพคเนตตี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Citizen of Humanity บริษัทแม่ของ AGOLDE กล่าวว่า ลูกค้าจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายอย่างแน่นอน ทั้งคุณภาพและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาอย่างยั่งยืน “กางเกงยีนส์ของเรา สอดคล้องกับเป้าหมายของแบรนด์ที่ต้องการเป็นส่วนเล็กๆ ในการช่วยพิทักษ์สิ่งแวดล้อม แต่เราไม่ได้ต้องการให้ลูกค้าจ่ายเงินเพื่อคิดว่าจะสนับสนุนแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเรา แต่อยากให้เชื่อมั่นว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเป็นความตั้งใจมากที่สุดที่เราอยากจะมอบให้”
Amour Vert ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 โดย ลินดา บาลตี และ คริสโตเฟอร์ เฟรชซี ชาวฝรั่งเศส ภายใต้หลักการว่า “ผู้หญิงไม่ควรสูญเสียสไตล์ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” บริษัทได้ถือปรัชญาขยะและมลพิษเป็นศูนย์ และยังได้ร่วมกับชาวอเมริกันปลูกต้นไม้กว่า 160,000 ต้นในทุกปีเพื่อชดเชยการผลิตด้วย
ในปัจจุบันอุตสาหกรรมผลิตกางเกงยีนส์มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น หลายๆ แบรนด์เริ่มเน้นการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและย่อยสลายได้ทางชีวภาพมากขึ้น เพื่อลดการใช้น้ำและกำจัดสารเคมี รวมถึงแบรนด์ดังอย่าง Levi's® (ลีวายส์) ที่ประกาศว่าในปีนี้จะนำเลเซอร์เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อลดการใช้สารเคมี
แน่นอนว่า Amour Vert กลายเป็นอีกทางเลือกที่น่าจะสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะรูปลักษ์และสไตล์ที่ผลิตออกมาเพื่อดึงดูดและเอาใจสาวๆ โดยเฉพาะ นอกจากนั้น ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือว่ายังเป็นช่องว่างในตลาดผ้ายีนส์ ที่ยังไม่มีเจ้าไหนเคยทำมาก่อน บุกเบิกก่อนก็ประสบความสำเร็จก่อน