WORLD NEWS

โดย M2F Writer

18 กุมภาพันธ์ 2562 : 12:00 น.

รายงานพิเศษต่างประเทศ

เมื่อเร็วๆ นี้ “เอล ชาโป” เจ้าพ่อขบวนการค้ายาเสพติดชาวเม็กซิกัน ขึ้นศาลเขตบลูคลิน นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เพื่อรับฟังคำตัดสินในข้อหาต่างๆ หลังจากที่เขาถูกทางการเม็กซิโกส่งตัวมายังสหรัฐเพื่อรับการพิจารณาคดีข้ามชาติเมื่อปี 2017 ปรากฏว่าศาลตัดสินว่าเขามีความผิดทุกกระทง ตั้งแต่ขายโคเคนและเฮโรอีน ครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย และฟอกเงิน ตอนนี้ยังไม่มีการระบุโทษ แต่เชื่อว่าน่าจะถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต โดยที่การตัดสินโทษครั้งสุดท้ายจะมีขึ้นในัวนที่ 25 มิ.ย. 2019

หากต้องถูกขังในเรือนจำที่สหรัฐ เอล ชาโปก็แทบจะหมดโอกาสหลบหนีจากคุก เหมือนที่เขาเคยขุดอุโมงค์หนีมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2015 แต่ก็ถูกลากตัวมานอนห้องขังอีกใน 5 เดือนต่อมา ซึ่งการหลบหนีของเจ้าพ่อยาเสพติดรายนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความหละหลวมในกระบวนการควบคุมตัวผู้ต้องโทษของเม็กซิโกได้เป็นอย่างดี 

เอล ชาโป หรือ “เจ้าเตี้ย” ไม่ใช่ชื่อจริง แต่เป็นฉายาของ ฮัวคิน กุซมาน ผู้นำเครือข่ายค้ายาเสพติดซีนาโลอา (Sinaloa Cartel) ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในรัฐซีนาโลอา ทางตะวันตกของเม็กซิโก ถือเป็นเครือข่ายยาเสพติด หรือ Cartel ชั้นแนวหน้าของแดนจังโก้ ไม่เพียงแค่กุมตลาดยานรกในภาคตะวันตกของประเทศเท่านั้น ยังมีเครือข่ายในเวียดนาม กัมพูชา จีน สหรัฐ ยุโรป ออสเตรเลีย และอเมริกาใต้ทั้งแผง จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า วีรกรรมและวีรเวรของเจ้าพ่อรายนี้จะมีมากมายสักแค่ไหน

• วัยเด็กของเอล ชาโป จมปลักกับความยากจนและพ่อที่มักทุบตีลูกๆ ครอบครัวของเขาอาจทำอาชีพปลูกต้นฝิ่น เช่นเดียวกับชาวบ้านในแถบบาดิรากูโต ที่ปลูกฝิ่นด้วยกันทั้งสิ้่น ทำให้เอล ชาโปใกล้ชิดกับยาเสพติดตั้งแต่ยังเด็ก แต่เขาไปไกลกว่านั้น ด้วยการออกจากบ้านเกิดอันยากจนไปหาลุงที่ชื่อ เปโดร อาบิเลส เปเรซ หนึ่งในเจ้าพ่อยาเสพติดคนแรกๆ ของเม็กซิโก และเริ่มต้นชีวิตในแก๊งอาชญากรเมื่ออายุ 20 ต้นๆ

• เอล ชาโปค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นมาจากการเป็นโชเฟอร์ให้หัวหน้าแก๊ง และได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ดูแลระบบโลจิสติกส์เส้นทางค้ายา และสร้างชื่อด้วยการเป็นลูกพี่จอมโหด ชอบใช้วิธีการรุนแรงในการทำธุรกิจ หากยาเสพติดที่สั่งไว้ไม่ส่งมาถึงตามกำหนด เขาจะลากตัวคนที่รับผิดชอบมาจ่อยิงที่ศีรษะด้วยตัวเอง หรือใครก็ตามที่โกงเขา หรือไปติดต่อซื้อยากับแก๊งอื่น มักจะมีจุดจบที่ไม่น่าอภิรมย์นัก ดังนั้น แม้ว่าแก๊งอื่นจะให้ราคาดีกว่า ลูกค้าก็ไม่อาจหลักหลังเอล ชาโปได้

• เส้นทางค้ายาที่สำคัญของเขาคือ จากโคลอมเบีย ผ่านเม็กซิโก ไปยังสหรัฐ แต่เมื่อรัฐบาลสหรัฐเข้มงวดหนักเข้า เขาก็หันมาใช้วิธีการขุดอุโมงค์ลอดผ่านพรมแดน ซึ่งเขาถือเป็นคนริเริ่มแนวคิดนี้ และในอนาคตการขุดอุโมงค์ยังเป็นแท็กติกที่ช่วยให้เขาหลบหนีจากการถูกคุมขังอีกด้วย

• เอล ชาโปยังเชี่ยวชาญในการใช้เงินซื้อเจ้าหน้าที่ ตอนที่เขาสั่งฆ่าฝ่ายตรงข้าม 9 ศพ จนฝ่ายตรงข้ามแทบจะสิ้นโคตรเมื่อปี 1992 เป็นเรื่องลือลั่นไปทั่วประเทศ อัยการสูงสุดของเม็กซิโกสั่งให้ตั้งทีมงานพิเศษเพื่อสืบสวน แต่ทีมงานต้องยุติบทบาทลงกะทันหัน หลังทราบว่เอล ชาโปติดสินบนให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่เป็นเงินถึง 10 ล้านเหรียญสหรัฐ

• แก๊งซีนาโลอาที่เขาเป็นผู้นำ เป็นอาณาจักยาเสพติดระดับโลกที่สร้างขึ้นจากธุรกิจมืดของผู้เป็นลุง โดยที่เขาถือเป็นรุ่นที่ 2 ผลงานชิ้นโบแดงของแก๊งนี้คือ การขุด “ซูเปอร์ อุโมงค์” ข้ามพรมแดนเม็กซิโก-สหรัฐ ในจุดต่างๆ และนับวันยิ่งจะมีเส้นทางที่ยาวขึ้นเรื่อยๆ ในอุโมงค์มีทั้งไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ และระบบรางสำหรับขนถ่ายยาเสพติด แต่ที่เหนือกว่าอุโมงค์คือ การ “ดีล” อย่างลับๆ กับคนของสำนักงานตำรวจกับทหารรัฐบาลกลาง โดยเจ้าหน้าที่ช่วยแก๊งซีนาโลอากำจัดอิทธิพลของแก๊งอื่นๆ ในพื้นที่ แม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐก็ยังมีข่าวว่าดีลกับกลุ่มของเอล ชาโป

• วันที่ 23 พ.ค. 1993 เอล ชาโปถูกฝ่าตรงข้ามล้อมยิงที่ลานจอดรถของสนามบินกวาดาลาฮารา แต่คนในรถไม่ใช่เขา กลับเป็นพระคาร์ดินัลฮวน โอกัมโป ที่ถูกกราดยิงเสียชีวิตคารถ พร้อมกับอีก 6 ชีวิต เอล ชาโปหนีไปอยู่ที่เซฟเฮ้าส์ได้ การตายของพระคาร์ดินัลทำให้ประธานาธิบดีเม็กซิโกต้องบินมาที่กวาดาลาฮาราด้วยตัวเอง แต่กลับไม่มีการไล่ล่าแก๊งค้ายาที่คาดว่าเอี่ยวเรื่องนี้ กลายเป็นเสียงร่ำลือว่า รัฐบาลสั่งเก็บพระคาร์ดินัลด้วยเหตุทางการเมือง สาธารณชนโกรธแค้นเรื่องนี้มากถึงกับตั้งค่าหัวไล่ล่าผู้เกี่ยวข้องกันเองถึง 5 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีการเปิดเผยใบหน้าของเอล ชาโป ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในวงกว้างเป็นครั้งแรก

• เอล ชาโปถูกจับครั้งแรกเมื่อปี 1993 ที่กัวเตมาลา แล้วถูกส่งตัวมารับโทษจำคุก 20 ปีที่เม็กซิโก แต่ติดสินบนผู้คุมเรือนจำ แลัวหนีออกมาจากเรือนจำที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงได้สำเร็จในปี 2001 หลังจากนั้นก็ถูกไล่ล่าตัวจากทั้งรัฐบาลเม็กซิโก สหรัฐ และตำรวจสากล ฝ่ายสหรัฐมอบสินบนให้กับผู้แจ้งเบาะแสถึง 5 ล้านเหรียญสหรัฐ เม็กซิโกให้รางวัลนำจับถึง 3.8 ล้านเหรียญสหรัฐ

• เขาถูกจับครั้งที่ 2 ในปี 2014 โดยพบว่าซ่อนตัวอยู่ในชั้นที่ 4 ของคอนโดมิเนียมในเมืองมาซัตลัน รัฐซีนาโลอา ฐานที่มั่นของเขานั่นเอง จากนั้นถูกนำตัวไปขังที่เรือนจำความมั่นคงสูง แต่เขาใช้วิธีการเดิม คือติดสินบน และให้สมุนขุดอุโมงค์ยาว 1.5 กม. จากนอกเรือนจำมาถึงห้องขัง โดยมีทางลงที่ห้องสุขาที่เป็นมุมอับสายตาจากล้องวงจรปิด เขาหนีไปได้ในเดือน ก.ค. 2015 แต่ถูกจับกุมได้อีกครั้ง หลังถูกล้อมปราบในเดือน ม.ค. 2016 และถูกส่งตัวให้สหรัฐตามหมายจับในเดือน ม.ค. 2017

• ระหว่างปี 2009-2013 นิตยสาร Forbes จัดอันดับให้เขาเป็นบุคคลทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของโลก โดยติดอันดับที่ 41, 60, 55, และ 67 ตามลำดับ และยกให้เขาเป็นเจ้าพ่อยาเสพติดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เขายังถือเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลที่สุดอันดับ 2 ของเม็กซิโก รองจากมหาเศรษฐี คาร์ลอส สลิม ผิดกันตรงที่คนหลังรวยและมีอำนาจด้วยวิธีสุจริต

• รัฐบาลสหรัฐเรียกเขาว่าเป็น “บุคคลที่โหดเหี้ยม อันตราย และน่าสะพรึงกลัวที่สุดในโลก” สำนักงานปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐ (DEA) ประเมินว่า อิทธิพลของเอล ชาโป เทียบเท่ากับ ปาโบล เอสโกบาร์ เจ้าพ่อค้ายาระดับตำนานชาวโคลอมเบีย และเรียกเขาว่าเป็น “ก๊อดฟาเธอร์แห่งวงการยาเสพติด”

ภาพหลัก REUTERS/Henry Romero

ภาพวาด REUTERS/Jane Rosenberg 

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ