นอกจากการดำเนินกิจกรรมพอกพูนทรัพย์สินในกระเป๋าสตางค์ การลงทุนในสังคมและสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยก็เป็นช่องทางการลงทุนหนึ่งที่กำลังมาแรง ได้รับความสนใจจากเหล่านักลงทุน
พวกเขาไม่ได้มองเห็นแต่เงิน แต่เห็นภาพไหลไปถึงอนาคตของสังคมที่อยู่ที่ได้รับการพัฒนา ซึ่งก็ช่วยให้คุณภาพชีวิตของตัวพวกเขาเอง คนรอบข้าง และประเทศชาติดีขึ้นตามไปด้วย
การลงทุนในสังคมต่างจากการให้เปล่า เพราะขึ้นชื่อว่าเป็น “การลงทุน” ก็ย่อมมีการได้กำไรและขาดทุนด้วย แล้วธุรกิจรูปแบบนี้จะส่งผลไปถึงเป้าหมายอย่างสังคมมากน้อยแค่ไหน?
บริษัทผู้จัดการกองทุน Bridges Fund Management ของอังกฤษ เปิดตัวโครงการกองทุนเพื่อสังคม Social Impact Bond Fund ล่าสุด เพื่อช่วยเหลือคนไร้บ้านในเมืองแมนเชสเตอร์ พื้นที่ซึ่งประสบปัญหามีคนเร่ร่อนมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศอังกฤษ
ปัจจุบัน สถิติจากทางการเมืองพบมีคนไร้บ้านมากถึง 200 คน ซึ่งเป็นจำนวนตัวเลขที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในแมนเชสเตอร์และทั่วประเทศ ตอนนี้ Bridges สามารถระดมทุนจากนักลงทุนทั้งประเภทบุคคลและองค์กรได้มากกว่า 25 ล้านปอนด์แล้ว
เป้าหมายของโครงการนี้คือ ช่วยให้คนไร้บ้านไม่เป็นคนไร้บ้านอีกต่อไป ด้วยการดำเนินงานอย่างเป็นขั้นตอน อย่างแรกคือการสร้างที่พักชั่วคราวให้พวกเขามาอยู่อาศัย ให้การดูแลด้านสุขภาพกายและจิตใจ
เมื่อพวกเขาพร้อมก็ให้ความช่วยเหลือด้านอาชีพ เช่น การฝึกวิชาชีพที่เหมาะสมกับตัวเอง ให้สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ หรือจัดหางานที่เข้ากับทักษะที่คนเหล่านี้มีอยู่แล้ว โดยผู้ที่เข้าข่ายคนไร้บ้านของโครงการคือผู้ที่จำเป็นต้องนอนข้างถนนอย่างน้อย 6 ครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
แอนดรูว เลอวิตต์ หุ้นส่วนบริหารของ Bridges กล่าวถึงโครงการนี้ว่า “โครงการนี้ใช้ได้ดีสำหรับผู้ที่ต้องการการพึ่งพิงมากๆ กระนั้นเอง ก็ยากที่จะแสดงผลลัพธ์ถึงการพึ่งพาตัวเองได้ และผลลัพธ์ท้ายที่สุดก็ยากที่จะคาดเดาเช่นกัน” และยอมรับความเป็นไปได้ว่า โครงการช่วยเหลือคนเร่ร่อนน่าจะได้ผลตอบแทนเพียงเล็กน้อยจากการลงทุนไป
ถึงอย่างนั้น โครงการของ Bridges ก็ยังได้รับการผลักดันอย่างเข้มแข็งโดยเฉพาะรัฐบาลอังกฤษ เพราะการดำเนินงานและ “จิตวิญญาณ” ที่ใส่ลงไปที่แตกต่าง
เลอวิตต์ เทียบว่า การทำงานของโครงการโดยองค์กรเอกชนของเขาให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างจากโครงการโดยภาครัฐ ซึ่งได้รับงบประมาณก่อนเริ่มการทำงาน Bridges จะได้รับเงินตอบแทนจากรัฐในภายหลัง เมื่อผลเป็นไปตามเป้าหมาย “สิ่งนี้ช่วยให้คณะทำงานมีอิสระและความยืดหยุ่นในการปรับปรุงเปลี่ยน แปลงรายละเอียดในแผนงานตามสถานการณ์”
จวบจนถึงทุกวันนี้ Bridges ลงทุนกับโครงการเพื่อสังคม ได้แก่ ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ การศึกษาและทักษะเลี้ยงดูตัวเอง ตลาดการยังชีพอย่างยั่งยืนและไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนมากกว่า 20 โครงการทั่วอังกฤษแล้ว และคาดว่าจะทำกำไรในรูปแบบเม็ดเงินในอีก 4 ปีข้างหน้า
ความคาดหวังของผู้ที่ลงทุนในโครงการเพื่อสังคมนี้ ที่ เลอวิตต์ สรุปสั้นๆ ให้เข้าใจได้ง่ายๆ คือ “คาดหวังว่าโครงการจะสร้างปรากฏการณ์ และนักลงทุนก็ได้เงินตัวเองคืน พร้อมกับกำไรเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งพวกเขาก็นำเงินจำนวนนี้ไปลงทุนต่อในโครงการเพื่อสังคมโครงการใหม่ต่อไป” ซึ่งแค่มีเงินอย่างเดียวทำไม่ได้แน่นอน 
ภาพ - REUTERS/Kamil Krzaczynski