รายงานพิเศษต่างประเทศ
แต่ละปีมีเด็กชาวเมียนมานับร้อยนับพันคนต้องระหกระเหินเพื่อหนีความยากจน และการใช้ความรุนแรงในครอบครัวออกมาใช้ชีวิตตามท้องถนน บางคนพออายุ 10 หรือ 11 ขวบก็ถูกพ่อแม่บังคับให้ทำงานหาเงินด้วยการนำตัวมาฝากไว้กับนายจ้าง ส่วนพ่อแม่ก็รับเงินค่าจ้างล่วงหน้า 6 เดือนแล้วหายไปเลย เด็กบางคนทนไม่ไหวก็ต้องหนีออกมาอยู่ข้างถนน โดยไม่มีใครเหลียวแล
แต่เป็นโชคดีของเด็กๆ เหล่านี้ที่ ขิ่น นิต ตี อู ไกด์หญิงวัย 40 ปี เจ้าของร้านอาหาร LinkAge ในเมืองย่างกุ้ง หยิบยื่นโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ จนเด็กหลายคนมีหน้าที่การงานและชีวิตที่ดีขึ้น
ขิ่น นิต ตี อู หรือ มะขิ่น ที่แปลว่า พี่ขิ่น ของเด็กๆ เปิดร้านอาหารเพื่อช่วยเหลือเด็กข้างถนนโดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2011 โดยเธอจะรับเด็กไร้บ้านมาฝึกอบรมทักษะการทำงานในร้านอาหาร ตั้งแต่เด็กเสิร์ฟไปจนถึงหน้าที่เชฟ รวมทั้งส่งเสียให้เรียนหนังสือและมีอาสาสมัครต่างชาติมาสอนภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส เพื่อให้ทุกคนได้มีความรู้ติดตัวมากที่สุด มะขิ่น เผยว่า เด็กบางคนก็ป่วยจนร่างกายซูบผอม จนเธอต้องพาไปรักษาตัว จับขัดสีฉวีวรรณกันก่อนที่จะได้ฝึกทำงานกันจริงๆ
เด็กๆ ที่นั่นรัก มะขิ่น เหมือนเธอเป็นแม่พวกเขา เพราะในช่วงแรกเริ่มที่รับเด็กคนใหม่เข้ามาฝึกงานนั้น มะขิ่น จะพูดคุยถึงปัญหาของเด็กๆ เพื่อละลายพฤติกรรม จากนั้นก็จะดูแลกันเสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว แต่ก็ใช่ว่าครอบครัวที่ชื่อว่า LinkAge จะราบรื่นเสมอไป เพราะเด็กแต่ละคนล้วนมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นประวัติอาชญากรรม หรือเคยเป็นขโมยมาก่อน
มะขิ่น เผยว่า ความท้าทายของเธอก็คือการสอนให้เด็กๆ ไม่แตะต้องสิ่งของของลูกค้า เนื่องจากบางคนยังเคยชินกับนิสัยขโมยของเพื่อประทังชีวิต และเคยมีครั้งหนึ่งที่ทำเอาเธอปวดหัว เพราะเด็กผู้ชายที่เพิ่งเข้ามาอยู่ที่ร้านได้ราว 2 สัปดาห์แอบเปิดประตูร้านให้เพื่อนเข้ามาแล้วขโมยเงินของร้านไปแบ่งกัน เหตุการณ์นี้ทำให้เธอเกิดความคิดจะปิดร้าน แต่สุดท้ายก็เดินหน้าต่อเนื่องจากเข้าใจดีว่าความจนเป็นอย่างไร
มะขิ่น เกิดในครอบครัวยากจน เธอยอมทำงานทุกอย่างเพื่อให้ได้เรียนสูงๆ และหลุดพ้นจากความยากจน ระหว่างที่กำลังรอเข้ามหาวิทยาลัยในปี 1996 เธอทั้งเรียนภาษาอังกฤษและทำงานเก็บเงินไปด้วย แต่ก่อนที่มหาวิทยาลัยจะเปิดเทอม ทางการก็มีคำสั่งให้ยุติการเรียนการสอนเนื่องจากมีนักศึกษาประท้วง มะขิ่น จึงเปลี่ยนไปทำงานเป็นพนักงานต้อนรับที่โรงแรมแห่งหนึ่งแทน ก่อนจะได้รับทุนไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส
หลังกลับจากฝรั่งเศส มะขิ่น เริ่มงานเป็นไกด์และเป็นอาสาสมัครขององค์กรไม่หวังผลกำไรแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอถูกส่งตัวไปอบรมที่ประเทศกัมพูชาและมีโอกาสได้ไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่จ้างงานเด็กไร้บ้าน จึงเป็นแรงบันดาลใจให้เธอกลับมาเปิดร้านอาหารในบ้านเกิด เพราะที่เมียนมาก็มีปัญหาเยาวชนไร้บ้านเช่นกัน
มะขิ่น กับเพื่อนตัดสินใจนำไอเดียร้านอาหารฝึกหัดอาชีพสำหรับเด็กข้างถนนไปเสนอสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสจนได้รับเงินสนับสนุน 15,000 ยูโร หรือราว 540,543 บาท เพื่อให้ทางร้านสามารถช่วยเหลือเด็กๆ ได้ในระยะยาว ปัจจุบันนี้รายได้สนับสนุนอาชีพของเด็กๆ มาจากกำไรจากร้านอาหารและเงินส่วนตัวของ มะขิ่น อีกส่วนหนึ่ง
ร้านอาหารแห่งนี้จะฝึกเด็กอายุระหว่าง 15-24 ปี ราว 1 ปี แล้วจะช่วยหางานที่ร้านอาหารอื่นหรืองานที่เด็กต้องการให้ ส่วนเด็กที่อายุต่ำกว่านี้จะได้รับเงินช่วยเหลือค่าเล่าเรียน ส่วนตัวร้านอาหารเองก็มีชื่อเสียงไม่แพ้ร้านอาหารที่มีเชฟระดับ 5 ดาว โดยมีทั้งบทความในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นและหนังสือไกด์บุ๊คแนะนำที่กินที่เที่ยวเอ่ยถึงจนนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาไม่ขาดสาย 
ภาพ : เฟซบุ๊ค