THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

17 สิงหาคม 2564 : 11:25 น.

สทป.ส่งมอบต้นแบบอุตสาหกรรมเรืออเนกประสงค์เพื่อความมั่นคงทางทะเล ให้กองทัพเรือ เพื่อตอบสนองภารกิจของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ

ที่บริเวณหาดน้ำใส หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ มีพิธีส่งมอบต้นแบบอุตสาหกรรมเรืออเนกประสงค์เพื่อความมั่นคงทางทะเล ระหว่าง สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) กับกองทัพเรือ โดยหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (นสร.กร.) มีพล.อ.อ.ปรีชา ประดับมุข ผอ.สถาบันเทคโนโลยป้องกันประเทศ เป็นผู้ส่งมอบให้กับ พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ โดยมี พล.อ.พอพล มณีรินทร์ ประธานกรรมการ สทป. พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เข้าร่วมแสดงความยินดี

พล.อ.อ.ปรีชา ประดับมุข ผอ.สถาบันเทคโนโลยป้องกันประเทศ กล่าวว่า โครงการพัฒนาจัดสร้างต้นแบบอุตสาหกรรมเรืออเนกประสงค์เพื่อความมั่นคงทางทะเล ถือเป็นโครงการวิจัยและพัฒนายานพาหนะทางน้ำโครงการแรกของ สทป. เกิดจากความร่วมมือระหว่าง สทป. กับ กองทัพเรือ เพื่อสนับสนุนภารกิจด้านความมั่นคงและการใช้งานของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (นสร.กร.) 3 ด้าน 1.ด้านความมั่นคงทางทหาร สนับสนุนภารกิจหลักสูตรต่างๆ ของ นสร.กร. เช่น นักทำลายใต้น้ำจู่โจม, ปฏิบัติงานใต้น้ำ และลาดตระเวน การขนส่งในพื้นที่ที่เรือใหญ่เข้าไม่ถึง (เข้าเกยหาด)

2.ด้านความมั่นคงทางทรัพยากรธรรมชาติ ได้แก่ การสนับสนุนโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในนามของพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย (อพ.สธ.) เช่น การวางทุนสำหรับผูกเรือ การเป็นฐานปฏิบัติการดำน้ำ การเก็บขยะในทะเล และ 3.ด้านความมั่นคงทางสังคม การมีส่วนร่วมรับผิดชอบสังคมสร้างการตระหนักถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและปัญหาขยะในทะเลให้แก่ประชาชน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาขยะให้หมดไป โดยมีกำหนดระยะเวลาดำเนินการโครงการฯ 2 ปี จนแล้วเสร็จ

น.ท.ณัฐภัทร คุ้มปรีดี ผอ.โครงการพัฒนาจัดสร้างต้นแบบอุตสาหกรรมเรืออเนกประสงค์เพื่อความมั่นคงทางทะเล กล่าวว่า จุดเด่นและลักษณะพิเศษของเรือในโครงการนี้ คือ ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมเกรดคุณภาพ ทำให้มีน้ำหนักเบาและมีความแข็งแรงสูง สามารถใช้ปฏิบัติงานได้ในระดับ Sea State3 นอกจากนี้ยังสามารถเปิดปิด Ramp หัวเรือเพื่อรับส่งรถขนาด 1.5 ตันได้และมีตระกร้าเก็บขยะที่รับน้ำหนักได้ถึง1ตัน พร้อมระบบดูดขยะ ที่ยกเข้ายกออกได้ ส่วนระบบเดินเรือและสื่อสาร ถือว่ามีประสิทธิภาพตอบโจทย์การใช้งานทั้งกลางวันกลางคืน  และเครื่องยนต์ยังเป็นระบบแบบ Outboard 2 เครื่อง ขนาด 300 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุดได้ไม่ต่ำกว่า 20 นอต ปฏิบัติงานได้ 48 ชั่วโมง และยังมีอุปกรณ์ช่วยยกหรือเครน ช่วยยกน้ำหนักได้ 1ตัน

“ทั้งหมดนี้คือความก้าวหน้าของการดูแลอนาคตทางทะเล เพื่อสร้างสำนึกรับผิดชอบ นำไปสู่ความมั่นคงทางทรัพยากรธรรมชาติ สร้างความมั่นคงทางสังคมอย่างยั่งยืน นอกจากนั้น ยังก่อให้เกิดความคุ้มค่าด้านต่างๆ อาทิ ความคุ้มค่าด้านเศรษฐกิจ ช่วยลดการนำเข้า หรือการใช้เทคโนโลยีจากต่างประเทศที่มีต้นทุนสูง เพิ่มมูลค่าของผลงานวิจัยและพัฒนาในอนาคต  อีกทั้งยังเกิดความคุ้มค่าด้านความมั่นคง ตอบสนองยุทธศาสตร์ของกระทรวงกลาโหม สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมกิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ รวมถึงความคุ้มค่าด้านการเมือง ก่อให้เกิดพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ บูรณาการและพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือตามแผนยุทธศาสตร์ของ สทป. เกิดการพึ่งตนเองด้านการวิจัยและพัฒนา ที่สำคัญยังคุ้มค่าด้านเทคโนโลยี ที่เปิดโอกาสให้บุคลากรของหน่วยงานรัฐได้ร่วมวิจัยและพัฒนา”น.ท.ณัฐภัทรกล่าว

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ