ตร.วังทองหลางฝากขัง-ส่งฟ้องก๊วนปาร์ตี้ยาซาวน่าซอยรามคำแหง จำเลย 52 คนรับสารภาพศาลแขวงเหนือสั่งปรับโทษคุกให้รอลงอาญา 2 ปี
เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกผ่านระบบ Video Conference ผู้ต้องหาคดีจัดปาร์ตี้ยาภายในฟารอส ซาวน่า ซอยรามคำแหง 21 โดยพนักงานสอบสวน ขอยื่นคำร้องฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.- 4 มิ.ย.64 นายสุรัช จิตพึงธรรม อายุ 41 ปี และนายณธัชพงศ์ แสงแก้ว อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาที่ 1-2 ในความผิด มียาไอซ์ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, เสพยาไอซ์ โดยผิดกฎหมาย, เข้าร่วมชุมนุมทำกิจกรรมที่มีการรวมคนที่มีความแออัดในลักษณะที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและอาจเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก และมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้โดยง่าย อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ศาลพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำร้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ถ.แจ้งวัฒนะ พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ได้ยื่นคำร้องขอผัดฟ้องฝากขังผู้ต้องหา 7 คน จากเหตุการณ์เดียวกัน ในคดีหมายเลขดำ ผ.436/2564 ข้อหาเสพเมทแอมเฟตามีนฯ และความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยผัดฟ้องฝากขังครั้งแรกมีกำหนด 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 24-29 พ.ค.นี้ และพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ยังได้ยื่นขอผัดฟ้อง นายจิณณะ กฤษฎีจินดา (เจ้าของร้าน) ผู้ต้องหาความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ , พ ร.บ.สุรา พ.ศ.2493 , พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 มีกำหนด 6 วันนับตั้งแต่วันที่ 24-29 พ.ค.นี้ด้วย ศาลแขวงพระนครเหนือ อนุญาตตามคำร้อง
นอกจากนี้ พนักงานสอบสวน ยังได้ส่งตัวผู้ร่วมกระทำผิดในเหตุการณ์เดียวกันนี้อีก 52 คนซึ่งให้การรับสารภาพ ให้กับพนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง 2 ยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลแขวงพระนครเหนือด้วย ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา 9,18 และ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 57,91 โดยจำเลยทั้ง 52 คนให้การรับสารภาพเห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ให้จำคุกจำเลย 22 คน ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และฐานเสพยา ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด คนละ 3 เดือน 15 วัน ปรับคนละ 15,000 บาท ส่วนจำเลย 30 คน ให้จำคุกตามความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คนละ 15 วัน ปรับคนละ 10,000 บาท
ทั้งนี้ ด้วยไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้ง 52 คน เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษ (รอลงอาญา) ไว้มีกำหนด 2 ปี โดยในกลุ่มจำเลย 22 คนนั้นให้คุมความประพฤติด้วยมีกำหนด 1 ปี และให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้งภายในกำหนด 1 ปี กับให้จำเลยกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์เป็นเวลา 12 ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56