THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

15 ธันวาคม 2563 : 15:09 น.

รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย ผบช.ปส.นำแถลงผลงานตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับกุม 8 คดีสำคัญได้ผู้ต้องหา 23 ผู้คน โชว์ยึดยาบ้าเกือบ 13 ล้านเม็ด ไอซ์อีก 20กิโลกรัม

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส.และ พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. ร่วมแถลงผลการจับกุมขบวนการผู้ค้ายาเสพติด 23 คน ยึดยาบ้า 12,888,000 เม็ด ไอซ์ 20 กิโลกรัม กัญชา 605 กิโลกรัม เคตามีน 10 กิโลกรัม และฝิ่นดิบ 4 กิโลกรัม จากทั้งหมด 8 คดี

คดีแรกจับกุมนายเฉลิมพล เที่ยงโชคชัย อายุ 39 ปี นางเพียรทอง เที่ยงโชคชัย ภรรยานายเฉลิมพล อายุ 45 ปี นายยุรนันท์ เที่ยงโชคชัย อายุ 25 ปี น.ส.สุภาภรณ์ หร่ายรัตน์ ภรรยานายยุรนันท์ อายุ 26 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 288,000 เม็ด รถพ่วง 1 คัน รถกระบะ 1 คัน ปืนสั้น 1 กระบอก ลูกกระสุนขนาด 7.65 มม.2 นัด แจ้งข้อหาร่วมกันมียาบ้าไว้ครอบครองเพื่อขายโดยผิดกฎหมาย จับกุมได้ที่ด่านตรวจยาเสพติดห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ต่อเนื่องถนนสายเอเชียหมายเลข 32 ต.บ้านหว้า อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ภายหลังสืบสวนทราบว่าจะมีผู้ลักลอบขนยาเสพติดโดยใช้รถบรรทุกลำเลียงยามาจาก อ.แม่จัน จ.เชียงราย เพื่อเข้ามายังภาคกลางกระทั่งถึงด่านตรวจดังกล่าวก็สามารถจับกุมนายเฉลิมพล และนางเพียรทอง ไว้ได้พร้อมยาบ้า 2.8 แสนเม็ด ซ่อนในกระสอบปุ๋ย ก่อนจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือได้ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดี

คดีที่ 2 จับกุมนายวันชัย ทองมี อายุ 53 ปี และพวกรวม 5 ราย พร้อมยาบ้า 7.2 ล้านเม็ด รถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน รถบรรทุกส่วนบุคคล 2 คัน แจ้งข้อหาร่วมกันมียาบ้าไว้ครอบครองเพื่อขายโดยผิดกฎหมาย จับกุมได้ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.พหลโยธินวังน้อย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา หลังตำรวจสืบสวนทราบว่ามีขบวนการขนยาเสพติดซึ่งเป็นกลุ่มเครือญาติกันได้รับการว่างจ้างจากผู้ค้ายาภาคอีสานให้นำยาเสพติดไปส่งลูกค้าในภาคกลาง จึงวางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าวพร้อมของกลางก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

คดีที่ 3 บก.ปส.4 จับกุมนายอดิศร โสภณภักดี อายุ 30 ปี นายอรรถพล มาศพิทักษ์ อายุ 30 ปี นายลูกเล็ก ทรงศรี อายุ 27 ปี นายชัยรัตน์ น้ำรอบ อายุ 31 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 5 แสนเม็ด รถบรรทุกสิบล้อ รถกระบะ อย่างละคัน และยึดรถเก๋ง 3 คัน กับรถกระบะอีกคันไว้ตรวจสอบตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ มูลค่าประมาณ 1.5 ล้านบาท แจ้งข้อหาร่วมกันมียาบ้าไว้ครอบครองเพื่อขายโดยผิดกฎหมาย จับกุมได้ที่ปั๊มน้ำมันบางจากสาขาวังมะนาว ต.ห้วยโรง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ต่อเนื่องลานดินริมถนนเพชรเกษม อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช หลังชุดจับกุมสืบทราบว่ามีผู้ค้ายาเสพติดภาคเหนือนำยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้าในภาคใต้โดยใช้รถบรรทุกสิบล้อลำเลียง จึงค้นหารถต้องสงสัยตามแนวถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ตั้งแต่ จ.เพชรบุรี จนพบรถดังกล่าวจอดในปั๊มน้ำมัน ก่อนเข้าตรวจสอบแล้วจับกุมนายอดิศร พร้อมยาบ้า 12 เม็ด พอค้นท้ายรถพบยาบ้า 25 กระสอบ หรือ 5 ล้านเม็ด แล้วขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือที่ขับรถไปรอรับยาในภาคใต้ แต่มีผู้ต้องหารายหนึ่งหลบหนีไปได้ จึงคุมตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีก่อนตามจับกุมผู้ต้องหารายอื่นต่อไป

คดีที่ 4 บก.ปส.3 ตรวจยึดไอซ์ 8 กิโลกรัม ได้ที่บริษัทรับส่งพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศ ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังสืบสวนพบพัสดุระหว่างประเทศต้องสงสัยปลายทางประเทศนิวซีแลนด์ จึงตรวจสอบภายในกล่องพัสดุดังกล่าวพบไอซ์ 8 กิโลกรัม อยู่ในเครื่องฟอกอากาศ นอกจากนี้ยังตรวจยึดเคตามีนน้ำหนัก 10 กิโลกรัม ได้ที่บริษัทรับส่งพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา หลังสืบสวนพบการลักลอบลำเลียงยาเสพติดมีปลายทางประเทศกัมพูชา จึงตรวจสอบภายในกล่องพบเคตามีนหนัก 10 กิโลกรัมซุกซ่อนอยู่ในถุงชาสำเร็จรูป มีต้นทางจาก อ.แม่สอด จ.ตาก และยังตรวจยึดเฮโรอีน 2 กิโลกรัมและไอซ์ 500 กรัม ได้ที่ศูนย์กระจายสินค้าบริษัทเอกชนย่านบางนา กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพัสดุส่งปลายทางประเทศออสเตรเลีย ซ่อนในซองขนมช็อกโกแลตและคุ้กกี้ จึงยึดไว้ตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

คดีที่ 5 บก.ปส.3 จับกุมนายคาย แซ่ซ้ง อายุ 30 ปี พร้อมของกลางไอซ์ 4 กิโลกรัม ในข้อหาครอบครองและพยายามนำไอซ์ออกนอกราชอาณาจักรเพื่อขาย จับกุมได้ที่อาคารผู้โดยสารขาออกท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ หลังตรวจพบวัตถุต้องสงสัยอยู่ภายในกระเป๋าสัมภาระของนายคาย แรงงานไทยที่กำลังจะเดินทางไปประเทศอิสราเอล พบของกลางซ่อนอยู่ในซองเครื่องดื่มเกลือแร่และซองครีมเทียม จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดี

คดีที่ 6 จับกุมนายนิวัฒน์ ใจตรง อายุ 34 ปี พร้อมของกลางไอซ์ 8 กิโลกรัม ในข้อหาร่วมกับพวกที่หลบหนีมีไอซ์ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต จับกุมได้ที่หน้าคอนโดมิเนียม ซอยอารีย์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ หลังจากได้ตรวจยึดพัสดุซุกซ่อนยาเสพติดปลายทางประเทศนิวซีแลนด์

คดีที่ 7 บก.ปส.3 จับกุมนายวัฒนา ไอ่สอ อายุ 22 ปี พร้อมยาบ้า 400,000 เม็ด ฝิ่น 4 กิโลกรัม รถกระบะ 2 คัน แจ้งข้อหาร่วมกับพวกที่หลบหนีมียาบ้าและฝิ่นไว้ครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต จับกุมได้ริมถนนหน้าหมู่บ้านหนองผักเฮือก หมู่ 10 ต.จอมหมอกแก้ว อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ต่อเนื่องริมถนนหน้าหมู่บ้านหมอกหม้อ หมู่ 9 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองฯ จ.เชียงราย หลังสืบทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดนายวัฒนา จะลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนเข้าพื้นที่ชั้นในของประเทศโดยขับรถกระบะตามมากัน 3 คัน จึงเฝ้าติดตามกระทั่งพบรถดังกล่าวที่ถนนเด่นห้า-ดงมะดะ เข้าไปจอดพักที่ปั้มน้ำมันเด่นห้าปิโตรเลียม ถนนเด่นห้า-ดงมะดะ ต.แม่กรณ์ อ.เมืองฯ จ.เชียงราย เมื่อตำรวจแสดงตัวขอตรวจค้น แต่ทั้งหมดพยายามขับหลบหนีเฉี่ยวชนกับรถของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจนเกิดอุบัติเหตุพุ่งชนรั้วบ้านชาวบ้าน แจ่คนขับรถยนต์หลบหนีไปได้ เมื่อค้นภายในรถยนต์คันดังกล่าวพบยาบ้าประมาณ 400,000 เม็ด และฝิ่น 4 กิโลกรัม วางอยู่ที่เบาะนั่งภายในรถยนต์ ก่อนจะตามจับกุมนายวัฒนา ได้ที่รถอีกคันแล้วนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

สำหรับ คดีที่ 8 บก.ปส.2 จับกุมนายวันชัย ขวัญวงค์ อายุ 33 ปี พร้อมพวกรวม 7 คน และกัญชา 605 กิโลกรัม รถยนต์ 4 คัน แจ้งข้อหาร่วมกันมีกัญชาไว้ครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต จับกุมได้ที่โรงแรมแกรนด์เพลส รีสอร์ท หมู่ 2 ซ.โพธิ์สว่าง ต.หมากแข้ง อ.เมืองฯ จ.อุดรธานี จึงคุมตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดี

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ