เปิดผลโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญร่างฉบับที่1ของฝ่ายค้านและฉบับที่2ของรัฐบาลผ่านฉลุย ขณะที่ร่างของไอลอว์ถูกตีตกพร้อมอีก 4 ฉบับ
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 63 นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา แถลงผลการนับคะแนนในการลงมติของสมาชิกรัฐสภาในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ฉบับ ปรากฎว่าที่ประชุมฯ มีมติรับหลักการวาระแรกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 ที่เสนอโดยฝ่ายค้าน และฉบับที่ 2 ที่เสนอโดยรัฐบาล
ขณะที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 3, ฉบับที่ 4, ฉบับที่ 5, ฉบับที่ 6 ของฝ่ายค้าน และ ฉบับที่ 7 ของไอลอว์ ซึ่งเป็นประเด็นที่กลุ่มราษฎรเรียกร้อง ถูกตีตกไปทั้งหมด
สำหรับสาระสำคัญของร่างแก้ไขฯ ฉบับที่ 1 ของฝ่ายค้าน คือ เสนอให้แก้ไขมาตรา 256 ให้มีการตั้ง ส.ส.ร.จำนวน 200 คนมาจากการเลือกตั้ง เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ส่วนฉบับที่ 2 ของรัฐบาลเสนอให้แก้ไขมาตรา 256 ให้มีการตั้ง ส.ส.ร.จำนวน 200 คน มาจากการเลือกตั้ง 150 คน และแต่งตั้ง 50 คน เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
นายชวน แถลงว่า การนับคะแนนเสียงว่าร่างฯ ฉบับใดผ่านจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนอย่างน้อย 366 เสียง และใน 366 ต้องมีเสียง ส.ว.อย่างน้อย 82 เสียง
ฉบับที่ 1 ได้รับเสียงสนับสนุน 576 เสียง เป็นของ ส.ส. 449 และ ส.ว.127 ส่วนผู้ไม่เห็นด้วย 21 เสียง และงดออกเสียง 123
ฉบับที่ 2 ได้รับเสียงสนับสนุน 647 เสียง เป็นของ ส.ส. 471 และ ส.ว.176 ส่วนผู้ไม่เห็นด้วย 17 เสียง และงดออกเสียง 55
ฉบับที่ 3 ได้รับเสียงสนับสนุน 213 เสียง เป็นของ ส.ส. 209 และ ส.ว.4 ส่วนผู้ไม่เห็นด้วย 35 เสียง และงดออกเสียง 472
ฉบับที่ 4 ได้รับเสียงสนับสนุน 268 เสียง เป็นของ ส.ส. 212 และ ส.ว.56 ส่วนผู้ไม่เห็นด้วย 20 เสียง และงดออกเสียง 432
ฉบับที่ 5 ได้รับเสียงสนับสนุน 209 เสียง เป็นของ ส.ส. 209 และ ส.ว. 0 ส่วนผู้ไม่เห็นด้วย 51 เสียง และงดออกเสียง 460
ฉบับที่ 6 ได้รับเสียงสนับสนุน 268 เสียง เป็นของ ส.ส. 209 และ ส.ว.59 ส่วนผู้ไม่เห็นด้วย 19 เสียง และงดออกเสียง 432
ฉบับที่ 7 ได้รับเสียงสนับสนุน 212 เสียง เป็นของ ส.ส. 209 และ ส.ว.3 ส่วนผู้ไม่เห็นด้วย 139 เสียง และงดออกเสียง 369
ที่ประชุมรัฐสภามีมติแต่งตั้งคณะกรรมาธิการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จำนวน 45 คน แบ่งเป็นสัดส่วนของ ส.ว. 15 คน และ ส.ส.30 คน ซึ่งในส่วนของ ส.ส. เป็นของพรรคเพื่อไทย 8 คน, พรรคพลังประชารัฐ 8 คน, พรรคภูมิใจไทย 4 คน, พรรคก้าวไกล 3 คน, พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน, พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน, พรรคเสรีรวมไทย 1 คน, พรรคประชาชาติ 1 คน และพรรคเศรษฐกิจใหม่ 1 คน
คณะกรรมาธิการฯ จะใช้เวลาในการแปรญัตติ 15 วัน โดยจะเริ่มประชุมนัดแรกในวันที่ 24 พ.ย. และจะใช้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 ของรัฐบาลเป็นหลักในการพิจารณา