สุราษฎร์ธานี-เจ้าหน้าที่ศรชล.ภาค 2 เตรียมความพร้อม เข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำพื้นที่สาธารณะอ่าวบ้านดอนเพื่อแก้ไขปัญหาบุกรุกที่สาธารณะดีเดีย์1 ก.ย.ขณะที่เจ้าของกลัวคดียอมรื้อเองแล้ว 69 หลัง

เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 (ศรชล.ภาค 2) โดยกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยและแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะบริเวณอ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีหน่วยงาน ศรชล.จ.สุราษฎร์ธานี ตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี เจ้าท่าภูมิภาค สาขาสุราษฎร์ธานี ประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เตรียมการเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำพื้นที่สาธารณะอ่าวบ้านดอน เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาบุกรุกที่สาธารณะอ่าวบ้านดอน ในวันที่ 1 ก.ย.เวลา 09.00 น.โดยจะมี พล.ร.ท.สำเริง จันทร์โส ผอ.ศรชล.ภาค 2 และผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 มาเป็นประธาน 

ทั้งนี้ ได้มีกำหนดพิกัดจะเข้ารื้อถอนขนำที่ 1 และขนำที่ 5 ในท้องที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เป็นปฐมฤกษ์ หลังจากมีการปิดคำสั่งทางปกครองให้รื้อถอนขนำและคอกหอย ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 18 ส.ค.63 โดยขนำที่ 1 มีขนาด 3 ชั้น ก่อสร้างลักษณะเป็นบ้านพักตากอากาศ เป็นขนำไม้อย่างดี มุงหลังคากระเบื้อง มูลค่าหลายล้านบาท และขนำที่ 5 มีขนาด 1 ชั้น หลังคามุงกระเบื้อง ทั้ง 2 หลังกำหนดใช้เวลารื้อถอนหลังละ 7 สัปดาห์ ใช้แรงงาน 20 คน

ข่าวแจ้งว่า มีขนำที่ถูกดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษระยะที่ 1 ในพื้นที่ 2 อำเภอ รวม 177 หลัง มี อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จำนวน 93 หลัง กับ อ.พุนพิน จำนวน 84 หลัง ล่าสุดมีเจ้าของรื้อถอนขนำเองแล้ว 69 หลัง อยู่ในท้องที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี 16 หลัง อ.พุนพิน 31 หลัง อ.กาญจนดิษฐ์ 11 หลัง และ อ.ท่าฉาง 11 หลัง ส่วนเจ้าของที่ไม่ทำการรื้อถอนจะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง กับดำเนินมาตรการด้านภาษีและการยึดทรัพย์กับเจ้าของขนำและคอกหอยต่อไป

ภาพ ศรชล.ภาค 2