THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

27 สิงหาคม 2563 : 10:51 น.

รมว.สาธารณสุขย้ำรัฐบาลอนุมัติงบกลาง 1,000 ล้านบาทสนับสนุนแผนเร่งรัดการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อสร้างความมั่นคงทางวัคซีนและระบบสาธารณสุขของประเทศ

เมื่อวันที่ 27 ส.ค.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติโดยมี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองประธานคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ พร้อมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย ณ กระทรวงสาธารณสุข

นายอนุทิน เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้รับทราบถึงความก้าวหน้าของแผนเร่งรัดการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของคนไทย ภายใต้การดำเนินงานทั้ง 3 แนวทาง รวมทั้งมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 ส.ค.2563 ได้อนุมัติงบกลางวงเงิน 1,000 ล้านบาท สนับสนุนการดำเนินงานตามแผนเร่งรัดการเข้าถึงวัคซีน โดยกำหนดแนวทางการเข้าถึงวัคซีน คือ การพัฒนาและวิจัยวัคซีนโดยหน่วยงานในประเทศ ซึ่งวันนี้เรามีการพัฒนาในรูปแบบ 6 เทคโนโลยี อาทิ โครงการพัฒนาวัคซีน ในรูปแบบ mRNA ของศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางวิจัยและพัฒนาวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งพบว่าการทดสอบในลิงมีผลกระตุ้นได้ดีและอยู่ระหว่างการเตรียมทดสอบในมนุษย์ โดยมติคณะรัฐมนตรีได้สนับสนุนงบกลางดังกล่าวให้จุฬาฯ ดำเนินการวิจัยรวมถึงการผลิตในระดับอุตสาหกรรมในกรอบวงเงินรวม 400 ล้านบาท ส่วนอีก 600 ล้านบาทเป็นการสนับสนุนให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ประสานพัฒนาศักยภาพการผลิตวัคซีนของเอกชนในการทำความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย อ็อกซ์ฟอร์ด และบริษัทในประเทศอังกฤษ เพื่อร่วมวิจัยพัฒนาและการถ่ายทอดเทคโนโลยีในการผลิต

นอกจากนี้ ยังมีความก้าวหน้าในแนวทางเรื่องการจัดหาวัคซีน จากต่างประเทศ เช่น โครงการเพื่อการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างเท่าเทียม (COVID-19 vaccine global access facility: COVAX facility) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) , Global Alliance for Vaccines and Immunisation (Gavi) และ Coalition for Epidemic Preparedness Innovations (CEPI) ที่ร่วมกันจัดตั้งกลไกให้เกิดความเท่าเทียมในการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่เหมาะสม ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันยังมีการประสานงานเพื่อเจรจาทำความร่วมมือกับประเทศผู้ผลิตโดยตรงอีกด้วย

“ทั่วโลกต่างมีความต้องการวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่ประเทศที่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณอาจมีความยากลำบากในการเจรจาเพื่อให้มีสิทธิในการเข้าถึงวัคซีนจากบริษัทผู้ผลิตระดับโลก ดังนั้น ประเทศไทยจึงต้องพยายามดำเนินการตามแผนงานทั้ง 3 แนวทางข้างต้น เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับประเทศไทย และเพื่อสร้างความมั่นคงทางวัคซีนและระบบสาธารณสุขของประเทศ ที่สำคัญรัฐบาล มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคนได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเวลาใกล้เคียงกับต่างประเทศ ซึ่งวันนี้เราเห็นแล้วว่ารัฐบาลได้สนับสนุนงบในส่วนนี้อย่างเต็มที่และการทำงานของพวกเราทุกคนมีความก้าวหน้า มีขั้นตอน และน่าจะเห็นผลสำเร็จได้ในอนาคตอันใกล้” นายอนุทินกล่าว

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ