ประเดิมใช้กำไลอีเอ็ม 11 ก.ย.ใน 3 กลุ่มผู้ถูกคุมประพฤติ ล็อตแรก 3,000 ราย อธิบดีฯคุมประพฤติมั่นใจระบบติดตามข้อมูลเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง ชี้อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์มาตรฐานเดียวกับศาลตัดทำลายยาก
เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่กรมควงคุมประพฤติ นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยความคืบหน้าการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว หรือ กำไล EM มาใช้กับผู้ถูกคุมประพฤติว่า ในวันที่ 11 ก.ย.นี้จะเริ่มนำอุปกรณ์ดังกล่าวมาใช้กับผู้ถูกคุมประพฤติ 3 กลุ่มคือ กลุ่มผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการประกันตัวและถูกคุมประพฤติตามคำสั่งศาลตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 กลุ่มผู้ต้องขังที่ได้รับการพักโทษตาม พ.ร.ฎ อภัยโทษ และกลุ่มผู้ติดยาเสพติดที่อยู่ระหว่างการรอตรวจพิสูจน์อยู่ในเรือนจำ 30-45 วัน ตามพ.รบ.ฟื้นฟูสมรภาพผู้ติดยาเสพติด ซึ่งตัวเลขเบื้องต้นคาดว่า จะมีประมาณ 3,000 ราย จากเดิมที่กรมคุมประพฤติได้ทำสัญญาเช่าใช้กับบริษัทเอกชนได้ทั้งหมด 30,000 เครื่องและเตรียมจะนำมาใช้ทั้งหมด แต่เนื่องจากจะมีผู้ได้รับการปล่อยตัวและได้รับการพักโทษ จึงทำให้ตัวเลขของผู้ที่จะต้องติดกำไลอีเอ็มลดจำนวนลงจากเป้าหมายที่ตั้งไว้
นายวิตถวัลย์ กล่าวว่า กำไลอีเอ็มที่จะนำมาใช้ในครั้งมีความแข็งแรงและเป็นมาตรฐานเดียวกันกับที่ศาลใช้ มีเทคโนโลยีการควบคุมที่ทันสมัยด้วยระบบ 4 จี สามารถติดตามตัวผู้ถูกคุมประพฤติแบบเรียลไทม์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงจากศูนย์ควบคุมและติดตามอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ กระทรวงยุติธรรม โดยจะมีจอมอนิเตอร์จำนวน 10 จอ ในแต่ละภูมิภาคจะมีจอเฝ้าติดตามหากมีการตัดทำลายเสียงสัญญาณจะดังขึ้นทั้งที่ศูนย์ควบคุมฯและที่ตัวอุปกรณ์ ซึ่งกำไลดังกล่าวจะถูกสวมที่ข้อเท้า มีแบตเตอรี่ที่ทนมากกว่าเดิม ซึ่งจากการทดสอบระบบมั่นใจว่ามีความเสถียรทำให้มั่นใจว่าผู้สวมใส่จะไม่สามารถตัดทำลายได้ง่าย โดยในวันที่ 1 ก.ย.นี้จะเปิดศูนย์ฯเพื่อทดลองระบบจัดเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเปิดระบบการใช้งานจริง
ทั้งนี้ การจัดซื้อจัดจ้างของกรมบัญชีกลางเป็นระบบการเช่าใช้ มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคุณภาพการใช้งาน โดยได้รับงบประมาณจำนวน 800 ล้านบาท พร้อมทั้งระบบเทคโนโลยีและจำนวนกำไลอีเอ็มจำนวน 30,000 เครื่อง มีสัญญา 3 ปี ส่วนวงรอบของผู้ถูกคุมประพฤติที่ต้องใส่กำไลเอ็มใน 1 เดือนจะมีประมาณ 2,000 คน ตามแต่ลักษณะโทษที่ได้รับการพักโทษ ผู้ต้องขังที่ได้รับการพักโทษระหว่าง 2- 5 ปืจะต้องติดกำไลอีเอ็มประมาณ 2 ปีครึ่ง และจะต้องเข้ารายงานตัวกับกรมคุมประพฤติตามกำหนดนัด อย่างไรก็ตามการใช้กำไลอีเอ็มนอกจากช่วยลดปัญหาความแออัดในเรือนจำแล้วยังเป็นการใช้มาตรการควบคุมแทนการกักขัง เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ถูกคุมประพฤติได้กลับไปทำมาหาเลี้ยงครอบครัวได้ด้วย