รายงานประจำปี สสส. ผ่านฉลุย รัฐบาล-ฝ่ายค้าน เห็นประโยชน์ ชี้สร้างสุขภาพเพื่อประชาชน “หมอกิตติศักดิ์” ให้ทำงานสุขภาวะตำบลต่อเนื่อง “พปชร.” ชม งานเชิงรุก-ครอบคลุม “ก้าวไกล” ย้ำต้องยกระดับความรู้เป็นนโยบาย
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา ชั้น 2 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 2 ครั้งที่ 11 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ ในวาระรับทราบรายงานตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ.2544 ประจำปี 2562 โดยมี ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ชี้แจงวาระดังกล่าว
นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนขอชื่นชมผลลัพธ์การทำงานของ สสส. ในเรื่องต่างๆ ที่ดีขึ้นตามลำดับ เช่นประเด็นการบริโภคยาสูบ พบว่าคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปมีแนวโน้มสูบบุหรี่ลดลงเรื่อยๆ เหลือร้อยละ 19.1 ในปี 2560 แต่มีข้อสังเกตว่า อัตราการสูบุหรี่คนไทยยังคงอยู่นั้น สสส. อาจจะต้องนำมาพิจารณาหามาตรการดำเนินงานต่อไป ส่วนเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน พบว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตตั้งแต่ปี 2554 – 2562 มีความใกล้เคียงกัน อยู่ที่ประมาณ 20,000 รายต่อปี ในโอกาสหน้าหากมีการแสดงตัวเลขร้อยละมาด้วย น่าจะทำให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนขอเสนอให้ สสส. ส่งเสริมการให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชน ในเรื่องการปกป้องสิทธิทางด้านร่างกาย เพื่อป้องกันปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ ควบคู่ไปกับการปลูกฝังให้เคารพสิทธิผู้อื่น
ด้านนายมานพ คีรีภูวดล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การยกระดับความรู้เป็นงานที่โดดเด่นของ สสส. ซึ่งตนขอเสนอให้ สสส. ใช้ความอิสระคล่องตัวในการดำเนินงาน มาเป็นโซ่กลางประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประเด็น ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาวิกฤตฝุ่นควัน ที่เกิดขึ้นจากไฟป่า ภาคอุตสาหกรรม การใช้ยานยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่ง สสส. และภาคีเครือข่ายควรทำงานให้ครอบคลุมทุกมิติมากขึ้น
ขณะที่ นายกิตติศักดิ์ คณาศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การรณรงค์ประเพณีปลอดเหล้า ในเทศกาลสงกรานต์ ลอยกระทง บุญบั้งไฟ เป็นสิ่งที่ดี หลังจากจังหวัดมหาสารคามร่วมโครงการดังกล่าวกับ สสส. พบว่า การทะเลาะวิวาทลดลง ความสูญเสียทั้งด้านร่างกาย และทรัพย์สินลดลง อย่างไรก็ตาม ตนขอเสนอให้ สสส. กระจายเงินงบประมาณไปสู่ทุกตำบลทั่วประเทศ จำนวนกว่า 7,000 ตำบล เพื่อสร้างภาคีเครือข่ายสุขภาพให้เกิดความครอบคลุม ซึ่งเชื่อว่าวิธีการนี้จะทำให้เงินงบประมาณที่ได้มาเกิดประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด
นายพิสิฐ ลี้อาธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนขอแสดงความยินดีที่ สสส. ทำงานมาครบ 20 ปีแล้ว ปัจจุบันประสบความสำเร็จจนได้รับรางวัลในระดับโลกมากมาย หลายประเทศเลือกเดินทางมาศึกษาดูงาน สสส. แต่หลายประเทศก็ไม่สามารถจัดตั้งกองทุนแบบ สสส. ได้ เนื่องจากติดอุปสรรคจากอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ แต่ สสส. ไทยสามารถพิสูจน์ให้เห็นว่า การห้ามการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง รวมไปถึงการสนับสนุนลดการบริโภคน้ำตาล อันเป็นสาเหตุของโรคอ้วน หรือจะเป็นประเด็นการดื่มไม่ขับ แม้ในวันนี้จะยังมีคำถามจากสังคมในเรื่องความโปร่งใส แต่ก็เชื่อมั่นว่า สสส. จะสามารถตอบคำถามนี้ได้ เพราะงบประมาณ 4,000 ล้านบาท ถือว่าคุ้มค่ามากกับการทำงานที่ครอบคลุมทุกมิติเช่นนี้