THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

10 พฤษภาคม 2563 : 15:58 น.

โฆษกกองทัพเรือ แจงหนังสือขอกรมป่าไม้ใช้พื้นที่ใน จ.ระยอง เป็นหน่วยซ่อนพรางยุทโธปกรณ์และฝึกป้องกันภัยทางอากาศสนามบินอู่ตะเภามากว่า 30 ปีแล้ว

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รอง เสนาธิการทหารเรือ และโฆษกกองทัพเรือ (ทร.) ชี้แจงต่อกรณีปรากฏข่าวการนำเอกสารของ ทร.ที่เสนอผ่านกรมป่าไม้ ว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ เกี่ยวกับที่ตั้งทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีทางทหาร และบัญชีพิกัดเป้าหมายสำคัญทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติต่อการถูกโจมตีเป็นอันดับแรก เมื่อเกิดความไม่สงบ

จากการที่มีบุคคลทั่วไป ที่ไม่ได้รับทราบรับรู้ความเข้าใจอย่างครบถ้วน ต่อแนวนโยบายการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี หรือแนวนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของชาติ แล้วนำมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างนั้นอย่างนี้บนหน้าหนังสือพิมพ์รายวันนั้น เป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อการละเมิดหรือการเปิดเผยความลับของทางราชการเป็นอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ดี กองทัพเรือขอบคุณสำหรับข้อห่วงใยที่ฝ่ายต่างๆนำเสนอไว้ แต่ขอเรียนให้มั่นใจได้ว่า กองทัพเรือซึ่งเป็นหน่วยหนึ่งที่มีบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อยู่แล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะขอดำเนินการใดๆที่ขัดแย้งต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งมีทั้งบนบกและในทะเลที่กองทัพเรือได้ให้ความช่วยเหลือและร่วมมือกับกรมป่าไม้ มาเป็นอย่างดีและต่อเนื่องมาโดยตลอด อาทิ การที่กองทัพเรือได้จัดกำลังพล ยุทโธปกรณ์โดยเฉพาะเรือรบ อากาศยาน อุปกรณ์สื่อสารบนบก/ในทะเล ระยะไกล การได้รับการมอบหมายให้เป็นเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่ตามกฏหมายว่าด้วยป่าไม้และกฏหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน งบประมาณของกองทัพเรือ เพื่อใช้ในการดำเนินงานอนุรักษ์ป่าไม้

ความร่วมมืออื่นที่กองทัพเรือเข้าดำเนินการ กับกรมป่าไม้มาอย่างแน่นแฟ้น ดังที่ปรากฎทางข่าวสารตลอดในหลายสิบปีที่ผ่านมา ได้แก่การป้องกัน และปราบปรามการบุกรุก ทำลายทรัพยากรป่าไม้ทั้งบนบก ตามแนวชายฝั่ง และบนเกาะในทะเล การป้องกันและบรรเทาพิบัติภัยธรรมชาติ

และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ การป้องกันและควบคุมไฟป่า ตั้งแต่การใช้อากาศยานของกองทัพเรือแบบ CL-215 บุกเบิกการดับไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มาอย่างได้ผลดียิ่งมาแต่อดีต จนถึงปัจจุบันที่ได้นำเฮลิคอปเตอร์แบบ Sea Hawk มาใช้แทนในปัจจุบัน

“กองทัพเรือ ขอเรียนย้ำให้ทราบว่าที่มีหนังสือไปตามข่าวที่ปรากฎนั้น ก็เพราะที่เคยขอใช้ประโยชน์พื่้นที่ฯไว้เดิมจะหมดอายุ ซึ่งก็เป็นการดำเนินการทางธุรการในการขอใช้ประโยชน์ตามที่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาล มาแต่อดีต

จึงไม่ใช่จะนำมาปกป้อง EEC เพราะต่อให้ไม่มี EEC กองทัพเรือ ก็ต้องมีหน่วยป้องกันสนามบินอู่ตะเภาซึ่งเป็นสนามบินของ ทร. เหมือนกับ ทอ. ที่ต้องมีหน่วยทหารต่อสู้อากาศยานป้องกันสนามบินต่างๆ”

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทร.ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่ป่านี้มา 30 ปีแล้ว ในการซ่อนพรางหน่วย ซ่อนพรางยุทโธปกรณ์ และเป็นพื้นที่ฝึกป้องกันภัยทางอากาศ ให้แก่สนามบินอู่ตะเภา และในส่วนที่ขอเพิ่มนั้น เนื่องจากความจำเป็นด้านนิรภัยการบิน ในการก่อสร้าง รันเวย์ หมายเลข 2 ของสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งสัมพันธ์กับความสูงและเนื้อที่ขอบเขตของเขาโกรกตะแบก ซึ่งตั้งประชิดอยู่บริเวณหัวรันเวย์

ด้วยขอเท็จจริงตามเหตุผลที่ได้ชี้แจงมาแล้วข้างต้น กองทัพเรือใคร่ขอให้การเสนอข่าวหรือให้ความคิดเห็นของทุกฝ่าย ที่ปรารถนาดีและโดยเฉพาะประชาชนทั่วไปให้กรุณารับฟังจากผลการพิจารณา ตามกระบวนการของทางราชการ ซึ่งจะประกอบไปด้วยหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง และคณะทำงานที่สามารถเข้าถึงข้อมูลด้านความมั่นคง และนโยบายของรัฐบาลที่เป็นชั้นความลับ ไม่สมควรนำมาวิพากษ์วิจารณ์กันบนสื่อสาธารณะ จนอาจเกิดการละเมิด หรือส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ

ทั้งนี้ ผลการปฏิบัติหน้าที่ของ ทร.ที่ผ่านมาได้ยึดมั่นต่อการดำเนินการเพื่อประเทศชาติและประชาชน ยืนเคียงข้างประชาชนมาเช่นไร ปัจจุบันและอนาคตก็จะเป็นเช่นนั้นให้สมกับอุดมการณ์ของกำลังพล ทร.ยึดถือเสมอมา คือ กองทัพเรือเป็นกองทัพที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า กองทัพเรือ ได้ทำหนังสือถึงกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพย์ฯ เรื่องขอใช้ประโยชน์ในที่ป่าสงวนแห่งชาติ จ.ระยอง พื้นที่ 4,600 ไร่ เพื่อจัดทำโครงการป้องกันภัยทางอากาศในพื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) บริเวณใกล้เคียง และเป็นที่ตั้งหน่วยป้องกันภัยทางอากาศของหน่วยฯต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ