.
อาจารย์ชวินทร์ chavintapoti@gmail.com
******************************
พระเครื่องหลวงพ่อทวด วัดช้างให้นั้น นับว่าเป็นที่นิยมทั้งในและต่างประเทศ เพราะได้ชื่อว่าเป็นพระเครื่องนิรันตราย เมื่อบูชาแล้วจะรอดพ้น แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง แถมยังบันดาลโชคให้กับผู้บูชาด้วยใจศรัทธาสามารถอธิษฐานขอได้ทุกประการ
พระเครื่องของหลวงพ่อทวดที่จัดสร้างออกมามีมากหลายรุ่น แต่เมื่อนึกถึงเหรียญที่จะให้เด็กและผู้หญิงไว้บูชาติดเพื่อเป็นสิริมงคล ย่อมนึกถึงเหรียญพิมพ์เม็ดแตง ซึ่งมีขนาดเล็กน่ารัก เพราะความกว้างของเหรียญประมาณ 1 เซนติเมตรเท่านั้นจึงนับได้ว่าเป็นพระเครื่องขนาดจิ๋ว แต่ราคาเช่าหาบูชาในรุ่นที่นิยมคือ จัดสร้างปีพ.ศ.2506-ปีพ.ศ.2508 มีราคาแพงเชียวครับ
เหรียญพิมพ์เม็ดแตง หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ถือว่าเป็นเหรียญพระเครื่องพิมพ์จิ๋วที่กล่าวได้ว่าได้รับความนิยมมากที่สุดในวงการพระเครื่องเมืองไทยก็ว่าได้ครับ และน่าจะเป็นเหรียญพิมพ์เม็ดแตงเหรียญเดียวที่มีการสร้างอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
มาชม เหรียญพิมพ์เม็ดแตง หน้าผาก 4 เส้นหนังสือเลยหู หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ซึ่งถือเป็นต้นแบบแห่งเหรียญพิมพ์เม็ดแตง เหรียญนี้จัดสร้างในปี พ.ศ.2506 เป็นเนื้ออัลปาก้าชุบนิเกิล
ก่อนอื่นมาดูธรรมชาติของเหรียญปั๊ม ที่พื้นเหรียญจะปรากฏเส้นเสี้ยนสาดกระจายตามพื้นเหรียญที่เกิดจากการปั๊มของเครื่องจักร และเส้นสายความคมชัดของพิมพ์ ตัวหนังสือคมชัดเป็นแท่งตามธรรมชาติและเหรียญจะต้องไม่บวมครับ
ตำหนิด้านหน้า
-พื้นเหรียญเรียบตึงไม่บวม
-เส้นหน้าผาก 4 เส้น คมชัด
-เส้นหน้าผากบนขวามีเส้นเชื่อมติดกัน
-จมูกเป็นแท่งคม
-ไม้เอกจะติดขอบ
-คิ้วขวาหนาใหญ่ยาวลงมา
-หูข้างขวาสูงกว่าด้านซ้าย
-ดวงตาเป็นเม็ดทั้ง 2 ข้าง
-ไม้โทจรดขอบ
-ตัว “ ห “ มีเส้นแตก
-หัวไหล่จรดขอบเหรียญ
-ลูกกระเดือกเป็นเม็ด
-ขอบสองชั้น
ตำหนิด้านหลังเหรียญ
-มีเส้นขอบ 2 ขอบ
-ดวงตาเป็นเม็ดคมชัด
-ใบหูคมชัดและลึก
-คอจะดูพองขึ้นเสมือนจริง
-ริมฝีปากคมชัด
-ริ้วจีวรคมชัดเป็นมิติ
มีบันทึกว่า พระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิม) อดีตเจ้าอาวาส วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ได้จัดสร้างเหรียญหลวงพ่อทวดที่มีขนาดเล็กขึ้น เรียกว่า เหรียญพิมพ์เม็ดแตง รวม 2 ครั้งในปี พ.ศ.2506 และปี พ.ศ.2508
การจัดสร้างเหรียญพิมพ์เม็ดแตง หลวงพ่อทวด เมื่อปีพ.ศ.2506 มีการจัดสร้างขึ้น 2 ครั้ง ในครั้งแรกสร้างเป็นพิมพ์เม็ดแตงหน้าผาก 3 เส้นหนังสือเลยหู เส้นคอ 5 เส้น สร้างจำนวนไม่มากนัก และหมดไปจากวัดในเวลาที่รวดเร็วมาก
ลูกศิษย์จึงได้เรียกร้องท่านอาจารย์ทิมให้จัดสร้างอีกครั้ง เนื่องจากพระเครื่องหลวงพ่อทวดเป็นที่ศรัทธาของประชาชนในจังหวัดภาคใต้จำนวนมาก หลังจากนั้นไม่กี่เดือนท่านอาจารย์ทิมจึงจัดสร้างขึ้นอีกครั้งหนึ่ง สร้างเป็นเหรียญพิมพ์เม็ดแตง หน้าผาก 4 เส้น หนังสือเลยหู และสร้างมากกว่าครั้งที่สร้างพิมพ์เม็ดแตงหน้าผาก 3 เส้นหนังสือเลยหู เส้นคอ 5 เส้น
โดยเหรียญพิมพ์เม็ดแตง หน้าผาก 4 เส้น หนังสือเลยหู ด้านหลังเหรียญเป็นรูปอาจารย์ทิม ส่วนมากปั๊มออกมาจะตื้นกว่าเหรียญเม็ดแตงหน้าผาก 3 เส้น หนังสือเลยหู และมีทั้งแบบบล๊อกเขยื้อนและแบบบล๊อกไม่เขยื้อน ซึ่งก็เป็นบล็อกตัวเดียวกัน และต่อมาเหรียญรุ่นนี้กลับเป็นที่นิยมสุดสำหรับพิมพ์เม็ดแตงในวงการนักสะสม
การแบ่งบล็อกของเหรียญพิมพ์เม็ดแตงตามหลักนิยม ซึ่งสร้างในปีพ.ศ.2506 มีดังนี้
-เหรียญพิมพ์เม็ดแตง หน้าผาก 4 เส้น หนังสือเลยหูมี 2 บล๊อกคือ บล็อกมีเนื้อเกินที่หน้าผากเส้นบนสุดด้านขวาองค์พระหลวงพ่อทวด และ บล็อกไม่มีเนื้อเกินที่หน้าผากเส้นบนสุดด้านขวาองค์พระหลวงพ่อทวด
-เหรียญพิมพ์เม็ดแตง หน้าผาก 3 เส้น หนังสือเลยหู
-เหรียญพิมพ์เม็ดแตง หน้าผาก 3 เส้น
ในส่วนของเหรียญพิมพ์เม็ดแตง หน้าผาก 3 เส้น ยังมาแบ่งพิมพ์ย่อยอีกเช่น
-บล็อกวงเดือน เส้นคอ 5 เส้น
-บล๊อก“ ณ “แตก
-บล๊อกมีเม็ดตา 2 ข้าง
-บล๊อกมีเม็ดตาข้างเดียว
-บล็อกไม่มีเม็ดตา เป็นต้น
ส่วนด้านประเภทเนื้อโลหะของเหรียญที่จัดสร้างนั้น นอกจากเหรียญเนื้ออัลปาก้าชุบนิกเกิลแล้ว ยังมีเหรียญกะไหล่ทอง แล้วยังมีเหรียญเนื้อเงินและเหรียญเนื้อทองคำ ซึ่งมีจำนวนสร้างน้อยมาก และนอกจากนี้เป็นที่น่าสังเกตุว่า เหรียญพิมพ์เม็ดแตงหน้าผาก 4 เส้นหนังสือเลยหู ซึ่งสร้างในปีพ.ศ. 2506 เป็นเหรียญหน้าผากปีกกาทั้งสิ้น
จุดเริ่มต้นของสุดยอดพระเครื่องนิรันตรายจากวัดช้างให้ เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2497 ตามบันทึกของคุณอนันต์ คณานุรักษ์ ได้ฝันถึงพระภิกษุชรารูปหนึ่งซึ่งประทับอยู่แถวโคกโพธิ์ จึงได้เดินทางไปพบกับท่านอาจารย์ทิม ธมฺมธโร เจ้าอาวาสวัดช้างให้
พร้อมกับปวารณาตัวเป็นผู้จัดสร้างพระเครื่องหลวงพ่อทวด เพื่อแจกให้ผู้มีจิตศรัทธาที่บริจาคเงินร่วมสร้างโบสถ์ โดยมีชาวบ้านในท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดสร้าง ไปช่วยหาว่านนานาชนิด มาถวายแก่ท่านอาจารย์ทิม ซึ่งถือเป็นปฐมตำนานของพระเครื่องหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน ปีพ.ศ.2497 จนเป็นที่รู้จักแพร่หลายสืบมาจนถึงปัจจุบัน
มีคำกล่าวจากผู้ที่ศรัทธาต่อพระเครื่องหลวงพ่อทวดว่า “จะเอาอะไรให้ขอ แล้วจะเกิดผลดั่งใจ” แค่สวดท่องคาถาของท่าน “นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภควา “ และอธิษฐานขอจากหลวงพ่อทวด ล้วนแล้วแต่เห็นผลดั่งใจ ซึ่งก็ทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อทวด โด่งดังทั้งในและนอกประเทศไทยในปัจจุบัน