คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เห็นชอบระเบียบฯ ว่าด้วยการให้ทุนเพื่อการวิจัย การพัฒนาการผลิตวัคซีน การคัดเลือก และวิธีการจัดซื้อยาที่เป็นวัคซีนในประเทศ หวังได้ใช้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพสอดคล้องยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีน
เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการวัคซีนแห่งชาติ พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองประธานกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2562ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาและให้ความเห็นชอบหลักการ 2 เรื่องสำคัญ คือ ร่างระเบียบคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติว่าด้วยการให้ทุน การส่งเสริม การสนับสนุน และการสร้างความร่วมมือเพื่อการวิจัย การพัฒนา การผลิตวัคซีน พ.ศ. .... และร่างหลักเกณฑ์การคัดเลือกและวิธีการจัดซื้อยาที่เป็นวัคซีนซึ่งผลิตในประเทศ
นายอนุทิน กล่าวในที่ประชุมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายสนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านต่าง ๆ และต้องการให้ผู้วิจัยโดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐพิจารณาเรื่องความคุ้มค่าและผลสัมฤทธิ์ที่ได้จากงานวิจัย เพื่อให้การใช้งบประมาณมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันการวิจัยและพัฒนาวัคซีนที่จำเป็นจะต้องเกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนให้กับคนไทยในภาวะที่มีการระบาดของโรคหรือสถานการณ์วิกฤติ ที่สำคัญประชาชนในประเทศได้ใช้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย
สำหรับ ร่างระเบียบฯ และร่างหลักเกณฑ์ฯ ทั้งสองฉบับ มีสาระสำคัญ คือ กำหนดกรอบแนวทางการส่งเสริม สนับสนุน สร้างความร่วมมือ และสร้างแรงจูงใจให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเอกชนในประเทศลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีน เช่น การสนับสนุนมาตรการทางภาษีให้กับผู้วิจัย ผู้พัฒนา และผู้ผลิตวัคซีน การกำหนดให้ผู้ผลิตยาที่ผลิตในประเทศได้รับการส่งเสริมตามกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐสามารถจัดซื้อวัคซีนตามแผนงานได้สะดวกและประหยัดงบประมาณ ในราคาที่ไม่สูงกว่าราคากลางของทางราชการ เป็นต้น ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การวิจัย การพัฒนา การผลิตวัคซีนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และสอดคล้องกับนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีน
ด้าน ดร.สาธิต กล่าวว่า ร่างระเบียบฯและหลักเกณฑ์ฯ ที่ผ่านความเห็นชอบจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ทุกหน่วยงานในประเทศที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการด้านวัคซีนเกิดความตื่นตัว และแข่งขันกันสร้างนวัตกรรมให้เกิดขึ้นในประเทศ อีกทั้งพัฒนาอุตสาหกรรมด้านวัคซีนในประเทศให้มีรากฐานเข้มแข็ง มีศักยภาพแข่งขันในตลาดภูมิภาคได้ อันเป็นการสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนให้เกิดขึ้นในประเทศไทย