THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

20 มีนาคม 2562 : 12:26 น.

สถ. ผนึกกำลัง 3 หน่วยงาน ลงนาม MOU ร่วมใจสร้างตลาดอาหารปลอดภัยให้คนไทยอยู่ดีกินดี

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการร่วมใจ สร้างตลาดอาหารปลอดภัยให้คนไทยอยู่ดีกินดี” ร่วมกับผู้บริหาร 3 องค์กร คือ นายภานุพล รัตนกาญจนภัทร ผู้อำนวยการองค์การตลาด (อต.) นายพงชาญ สำเภาเงิน รองกรรมการผู้จัดการรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และนายวิชาญ เจริญกิจสุพัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ผลิตภัณฑ์กระดาษไทย จำกัด ณ ห้องประชุม กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในปีงบประมาณที่ผ่านมากรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและองค์การตลาด ได้ร่วมกันบูรณาการกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ภายใต้โครงการ "สถ. อต. ร่วมใจ สร้างตลาดอาหารปลอดภัยให้คนไทยอยู่ดีกินดี (Go Green Plus)" เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการให้ความรู้กับผู้ประกอบการในเรื่อง Green Market เพื่อร่วมประเมินการพัฒนาและยกระดับตลาดมาตรฐานเกษตรปลอดภัย และร่วมกันประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรม No Foam ในการพัฒนาตลาดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเครือข่ายที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 15 ตลาด

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ร่วมกับอีก 3 หน่วยงาน จัดทำ "โครงการร่วมใจ สร้างตลาดอาหารปลอดภัยให้คนไทยอยู่ดีกินดี" โดยมีเป้าหมายในการดำเนินงาน คือ ตลาดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน 35 แห่ง และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมตลาดในกำกับดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนี้ ให้ก้าวสู่ตลาดที่มีตลาดมาตรฐานทางการเกษตรของชุมชน กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และส่งเสริมสินค้าเกษตรปลอดภัย ทั้งยังเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายและการระบายสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลด้วย

ทั้งนี้ การลงนามความร่วมมือทั้ง 4 หน่วยงาน เป็นการรวมตัวของผู้ที่มีบทบาทในการสร้างตลาดอาหารปลอดภัยให้เกิดขึ้นจริง คือ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ในฐานะที่เป็นหน่วยงานในการส่งเสริมและสนับสนุนการบริหารจัดการตลาดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การตลาด (อต.) ในฐานะเป็นผู้ที่มีองค์ความรู้ด้านการจัดจำหน่ายสินค้า การระบายสินค้า และการบริหารจัดการตลาดให้มีประสิทธิภาพ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ในฐานะที่เป็นสถาบันการเงินที่ช่วยเหลือและสนับสนุนในเรื่องของแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบการเพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องทางด้านการเงินของกิจการ และบริษัท ผลิตภัณฑ์กระดาษไทย จำกัด ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารปลอดภัยเฟสท์ บรรจุภัณฑ์อาหารทางเลือกของผู้ประกอบการร้านอาหารที่สะอาด ปลอดภัยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

“การร่วมมือกันของทั้ง 4 หน่วยงานในวันนี้ มีเป้าหมายที่สำคัญก็เพื่อส่งเสริมการสร้างตลาดอาหารปลอดภัยให้คนไทยอยู่ดีกินดี โดยการพัฒนาตลาดให้เป็นตลาดรักษ์โลก นั่นคือ 1.หลักเกณฑ์เกี่ยวกับสินค้าเกษตรปลอดภัย 2.หลักเกณฑ์ทางด้านสุขภาพอนามัยของตลาดและสินค้า 3.หลักเกณฑ์การณรงค์และต่อยอดให้ใช้ภาชนะหรือบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (No Foam) ก็ขอย้ำว่า MOU นี้ เกิดขึ้นเพื่อพัฒนาตลาดในความรับผิดชอบของท้องถิ่น ให้มีคุณภาพตามเกณฑ์การประเมิน และหลังจากนี้ก็จะมีการสรุปบทเรียนและองค์ความรู้ของตลาดที่เข้าร่วมโครงการที่ประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นเสมือนหัวเชื้อให้กับตลาดของท้องถิ่นที่เหลืออีกกว่า 3,800 แห่ง และให้สามารถถ่ายทอดเป็นต้นแบบไปยังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 7,851 แห่งต่อไป” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

นายภานุพล รัตนกาญจนภัทร ผู้อำนวยการองค์การตลาด (อต.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา องค์การตลาด ได้ร่วมกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นในโครงการขยายเครือข่ายความร่วมมือขององค์การตลาดและพัฒนาตลาดให้เป็นตลาด Go Green Plus จำนวน 15 ตลาดด้วยแล้ว โดยตลาดเครือข่ายมีการงดใช้โฟมและพลาสติกในบรรจุสินค้าอาหารในตลาด เพื่อลดปัญหาขยะ และให้มีการจัดโซนขาย Green Shop ซึ่งเป้าหมายในปีนี้ จะเป็นการดำเนินการพัฒนาตลาดท้องถิ่นทั้ง 35 ตลาด ให้เป็นตลาดสีเขียวหรือ Green Market มีการจัดพื้นที่นำร่อง เพื่อจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดสาร และมีการใช้บรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น เพื่อทดแทนพลาสติกหรือโฟม ให้สินค้าเกษตรปลอดสาร มีช่องทางการจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้นด้วย

ด้าน นายพงชาญ กล่าวต่อด้วยว่า ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย มีความมุ่งมั่นตามหลัก 3 เติม ได้แก่ เติมทักษะ เติมทุน และเติมคุณภาพชีวิต เพื่อให้ผู้ประกอบการ SME ได้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน เพื่อนำไปสู่การยกระดับตลาดสีเขียวหรือ Green Market ในการผลักดันสินค้าเกษตรปลอดสารอาหารปลอดภัย รวมถึงใช้วัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นสู่การเติมคุณภาพสร้างสังคมไทยที่อยู่ดีมีสุข

ขณะที่ นายวิชาญ กล่าวเสริมว่า ทางบริษัทจะมุ่งมั่นในการคิดค้น และพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มต้นจากความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ เน้นการวิจัย ค้นคว้า พัฒนาวัตถุดิบในการผลิต โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและตอบสนองต่อการใช้งานที่ดีขึ้น พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคมไทยให้ดียิ่งขึ้นอย่างยั่งยืน

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ