อธิบดีสถ.แจงกรณีสหกรณ์ออมทรัพย์ สถ.ตามเรียกเก็บหนี้ "ผู้กู้-ผู้ค้ำประกัน" เข้มข้น เพราะต้องคุ้มครองและรักษาสิทธิของสมาชิกส่วนใหญ่ที่ดีมีวินัย คลอดกฎ 5 กฎเหล็กล้อมคอกเบี้ยวหนี้
เมื่อวันที่ 24 ต.ค. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น(สถ.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงกรณีที่สหกรณ์ออมทรัพย์ จำกัด ดำเนินการโอนหนี้ให้ผู้ค้ำประกันว่า เปิดเผยว่า ปัจจุบันสหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำกัด มีลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี และได้มีการติดตามทวงถามอย่างต่อเนื่องมานานหลายปี ในกรณีที่ผู้กู้และผู้ค้ำประกันไม่ชำระหนี้ให้แก่สหกรณ์ฯ ได้มีการฟ้องดำเนินคดีกับผู้กู้และผู้ค้ำประกันทั้งชุด โดยศาลได้มีคำพิพากษาให้จำเลย คือผู้กู้ และผู้ค้ำประกันร่วมกันชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์ฯทุกราย
ทั้งนี้ การฟ้องดำเนินคดีดังกล่าว ทำให้เกิดการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำกัด เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2561 จึงได้มีมติให้ดำเนินการกับผู้กู้และผู้ค้ำประกันที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา ที่ระบุไว้ในสัญญาเงินกู้และหนังสือค้ำประกัน โดยหากผู้กู้หรือลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ที่มีอยู่ ให้ผู้ค้ำประกันเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 ที่สมาชิกได้ทำความยินยอมเป็นหนังสือ ให้สหกรณ์หักเงินได้รายเดือน เพื่อชำระหนี้ หรือภาระผูกพันอื่นที่มีต่อสหกรณ์ และตามหนังสือค้ำประกัน
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ค้ำประกัน ซึ่งต้องรับภาระแทนผู้กู้ตามหนังสือค้ำประกัน ทางสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ก็ได้มีมาตรการช่วยเหลือผู้ค้ำประกัน ดังนี้ 1.ยกเว้นดอกเบี้ยค้างชำระ/ดอกเบี้ยเก่าของผู้กู้ ทั้งหมดแก่ผู้ค้ำประกัน (สงวนสิทธิ์เรียกเก็บจากผู้กู้) 2.ผู้ค้ำประกันมีสิทธิฟ้องดำเนินคดีกับผู้กู้ โดยสหกรณ์ช่วยค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีร้อยละ 50 ของใบเสร็จรับเงิน 3.สมาชิกที่เป็นผู้ค้ำประกันสามารถส่งคำขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้ได้ (รวมหนี้ หรือแยกเฉพาะหนี้ที่รับโอน) โดยสามารถขยายงวดผ่อนชำระได้ถึง 180 งวด และไม่เกินอายุราชการและ
4.ผู้ค้ำประกันที่พ้นสมาชิกภาพไปแล้วสามารถส่งคำขอประนอมหนี้ได้ ถ้าชำระเงินต้นทั้งหมดจะได้รับการยกเว้นดอกเบี้ยค้างชำระ/ดอกเบี้ยเก่า ร้อยละ 90 หรือ ขยายงวดผ่อนชำระได้ถึง 120 งวด และไม่เกินอายุราชการ 5.กรณีที่เป็นหนี้ก่อนปี พ.ศ.2556 เมื่อสมาชิกชำระหนี้ทั้งหมดในคราวเดียวกันจะได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนช่วยเหลือผู้ค้ำประกันร้อยละ 20 ของเงินต้น แต่ไม่เกิน 40,000 บาท
"การดำเนินการดังกล่าว เพื่อเป็นการคุ้มครองของสมาชิกเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีวินัยในการชำระหนี้ที่ดี เพราะกรณีที่สมาชิกผู้กู้ไม่ชำระหนี้ทำให้เกิดการสูญเสียเงินต้นที่มาจากหุ้นสะสมของสมาชิกและรายได้จากดอกเบี้ยที่จะนำมาจัดสวัสดิการ และเงินสงเคราะห์ต่างๆ เงินปันผลและเฉลี่ยคืนให้กับสมาชิก จำนวน 29,037 ราย ทั้งนี้ สหกรณ์ออทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำกัด ได้จัดทำโครงการคลินิกแก้หนี้เพื่อช่วยเหลือผู้ค้ำประกัน หากสมาชิกรายใดมีปัญหา ขอให้ติดต่อสหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำกัด เพื่อให้คำปรึกษาและแนะนำการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป" อธิบดี สถ.กล่าว