"แม่แตงโม"พร้อมทนายเดชาเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.สส.ภ.1 แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมกับ"กระติก"ในความผิดฐานพยายามทำลายหลักฐาน
เมื่อวันที่ 7 เมษายน ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 (บก.สส.ภ.1) นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ พร้อมด้วย นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ในฐานะทนายความเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติม โดยให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก ผู้จัดการแตงโม 1 ใน 5 คนบนเรือลำเกิดเหตุ ในความผิดฐานพยายามทำลายหลักฐาน ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 184 ที่ระบุว่า ผู้ใดเพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายเดชา กล่าวว่า มาแจ้งข้อกล่าวหาทำลายหลักฐานเพิ่มเติมกับกระติก โดยมีหลักฐานบงชี้ว่า ได้มีการลบรูปภาพออกจากมือถือจริง ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าเป็นมือถือของแตงโม หรือ กระติก ต้องรอสอบถามกับทางพนักงานสอบสวน แต่ตนเชื่อว่า พนักงานสอบสวนน่าจะมีการแจ้งกับบุคคลอื่นที่ยังไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหานี้เช่นกัน เช่น การทิ้งขวดและแก้วไวน์ลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะต้องทิ้งด้วยตัวเองถึงจะโดนดำเนินคดี ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวนว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนกรณีว่าทำไมพนักงานสอบสวนถึงยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาอื่นๆ กับคนบนเรือนั้น ต้องรอหลังจากเข้าให้ปากคำเสียก่อนถึงจะรู้สาเหตุ แต่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่นั้นมีหลักฐานที่ครบถ้วนอยู่แล้ว
ด้าน นางภนิดา เปิดเผยว่า มีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม เพราะคดีดำเนินการไปมากพอสมควร และไม่กังวลใจกับการทำงานของพนักงานสอบสวน
นางภนิกา กล่าวกรณี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ เปิดเผยเรื่องที่บังแจ๊คนำผ้าที่อ้างว่าเป็นผ้าของแตงโม มาเผยแพร่ว่า ส่วนตัวรู้สึกตลก และไม่เชื่อว่าเป็นผ้าของแตงโมจริง โดยมีการพูดคุยกับนายมงคลกิตติ์เรื่องนี้ไปแล้ว หากนายมงคลกิตติ์จะเดินหน้าหาข้อมูลหลักฐานคดีนี้เพิ่มเติมก็สามารถทำได้ ส่วนบังแจ็คยังไม่มีการพูดคุยกันเพราะก่อนหน้านี้บังแจ็ค พยายามโทรมาหา เพื่อที่จะแอบอัดเสียงนำไปตัดต่อเผยแพร่ในสื่อโซเชียล โดยไม่เคยมีการขออนุญาตมาก่อน
ทั้งนี้ ส่วนตัวยังยืนยันว่า จะขอดำเนินคดีกับผู้ที่แสดงความคิดเห็นและด่าทอต่อว่าในสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้เกิดความเสื่อมเสียด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ มีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ จำนวน 2 คน ติดต่อเข้ามาขอโทษแล้ว นอกจากนั้น ได้มีการพูดคุยกับนายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ และนายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือ โรเบิร์ต ซึ่งทั้ง 2 คน ยืนยันว่า ได้ให้การรับสารภาพกับพนักงานสอบสวนไปแล้ว เรื่องที่ทั้ง 2 คนสารภาพ ก็เป็นไปตามที่เคยออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชนไปก่อนหน้านี้แล้วที่ยืนยันจะดูแลตัวแม่เอง ดังนั้นจึงไม่ติดใจอีกแล้ว