สสส.ผนึก 10 หน่วยงานภาครัฐ-เอกชน จัดงาน “ที ลีสซิ่ง เปื้อนยิ้ม เพิ่มห่วงใย ตรวจสภาพรถจักรยานยนตร์ ฟรี! ปี 3” ปลุกคนไทยตื่นตัวลดฝุ่น PM2.5 ชวนตรวจเช็คควันดำ-เปลี่ยนน้ำมันเครื่องก่อนเดินทาง
เมื่อวันที่ 7 เมษายน ที่ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตปทุมวัน สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ศูนย์วิชาการเพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษอากาศ (ศวอ.) และสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด ร่วมจัดกิจกรรม “ที ลีสซิ่ง เปื้อนยิ้ม เพิ่มห่วงใย ตรวจสภาพรถจักรยานยนต์ ฟรี! ปี 3” ให้บริการตรวจสภาพรถยนต์และรถจักรยานยนต์ให้แก่ประชาชนก่อนเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 7-8 เมษายน 2565
นายมงคล เพียรพิทักษ์กิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด กล่าวว่า ที ลีสซิ่ง จัดกิจกรรมตรวจสภาพรถอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อสนับสนุนให้ผู้ใช้รถได้เดินทางอย่างปลอดภัยตลอดเส้นทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งในปีนี้ ได้ร่วมกับ สสส. และภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน เนื่องจากเห็นความสำคัญของการขับขี่อย่างปลอดภัย พร้อมใส่ใจสิ่งแวดล้อม สร้างความตระหนักรู้ถึงพิษภัยของการปล่อยมลพิษทางอากาศ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพผู้ขับขี่และคนรอบข้าง ถือเป็นความร่วมมือในการเตรียมพร้อมเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว
“ความพิเศษของกิจกรรมในปีนี้ ได้แก่ 1. การตรวจเช็คควันดำ โดยกรมควบคุมมลพิษ ทส. เพื่อสร้างความตระหนักรู้และความปลอดภัยเกี่ยวกับปัญหาฝุ่น PM2.5 และ 2. การให้ความรู้ด้านการขับขี่และความปลอดภัยบนท้องถนน โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด ร่วมส่งต่อเทคนิคในการขับรถกลับบ้านและท่องเที่ยวอย่างราบรื่น ซึ่งนอกจากจะช่วยลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนแล้วยังสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น ทำให้ทุกคนได้ใช้เวลาในวันหยุดเทศกาลอย่างมีความสุขและปลอดภัย” นายมงคล กล่าว
นายชาติวุฒิ วังวล ผอ.สำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สสส. กล่าวว่า จากรายงานคุณภาพอากาศโลก ปี 2564 (World Air Quality Report 2021) รายงานอันดับเมืองที่มีมลพิษจากฝุ่น PM2.5 ทั่วโลก พบว่า ไม่มีประเทศที่ผ่านมาตรฐานคุณภาพอากาศตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งกรุงเทพฯ จัดอยู่ในอันดับที่ 42 จากทั้งหมด 107 เมือง สะท้อนปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพคนเมืองในประเทศ ที่ผ่านมา สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่าย ริเริ่มโครงการอากาศสะอาดเขตปทุมวัน ถือเป็นการนำแนวคิดของเขตควบคุมมลพิษต่ำ (Low Emission Zone) ที่มีต้นแบบจากลอนดอน ประเทศอังกฤษ มาประยุกต์ใช้ในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเกิดความตระหนักในการดูแลสุขภาพ โดยสร้างความร่วมมือในการตรวจสอบสภาพรถที่อาจปล่อยมลพิษทางอากาศ รวมถึงเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่งเสริมการใช้รถสาธารณะพลังงานสะอาดที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ
“สสส. ขับเคลื่อนการทำงานตั้งแต่ระดับพื้นที่ไปจนถึงระดับนโยบายเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กรุงเทพฯ มีค่าความเข้มข้นของมลพิษจากฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มลดลงจาก 20.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในปี 2561 เหลือ 20.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในปี 2564 หรือลดลงร้อยละ 5 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศที่เกี่ยวข้องกับ PM2.5 อย่างเป็นรูปธรรม นำไปสู่การฟื้นฟูอากาศและสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการมีสุขภาวะของประชาชนที่ดีขึ้นได้จริง” นายชาติวุฒิ กล่าว