เชียงใหม่-เผยยอดผู้ติดเชื้อโควิดในเรือนจำเชียงใหม่พบแล้ว 3,793 คน มีผู้คุมติดเชื้อจำนวน 7 ราย ต้นเหตุเกิดจากแดน 4 ก่อนลามไปแดน 6-7-8 อย่างรวดเร็วเร่งหาผู้ติดเชื้อเพิ่มภายใน 28 วันเพื่อสกัดการแพร่เชื้อ
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม จังหวัดเชียงใหม่ กองทัพภาคที่ 3 กรมแพทย์ทหารบก และกรมราชทัณฑ์ ได้ร่วมแถลงข่าวประเด็นความร่วมมือในการบริหารจัดการโรงพยาบาลสนามเรือนจำกลางเชียงใหม่ ที่หอประชุม 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการแถลง
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่เรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่เมื่อปลายเดือนเมษายน 2564 จำนวน 144 คน โดยตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2564 ได้เร่งการควบคุมการระบาด โดยใช้มาตรการการควบคุมโรคในรูปแบบ “บับเบิ้ล แอนด์ ซีล” (Bubble and Seal) หรือการจำกัดคนเข้า-ออก เป็นเวลา 28 วัน เพื่อควบคุมโรคทุกแดนของพื้นที่เรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งคล้ายๆการ Lockdown และเร่งสร้างโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำในแดน 6 ให้มีมาตรฐาน โดยมีทีมแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิดโดยขณะนี้จำนวนผู้ต้องขังที่ติดเชื้อกว่า 3 พันคน อยู่ภายใต้การควบคุมโรคแบบ Bubble and Seal ซึ่งขณะนี้กระบวนการดำเนินการอยู่ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 คาดว่าจะส่งคืนพื้นที่เรือนจำภายในวันที่ 28 พฤษภาคม 2564
ด้านพล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 3 ได้เข้ามาสนับสนุนด้านกำลังพลให้กับจังหวัดเชียงใหม่ สนับสนุนกำลังพลในการตั้งโรงบาลสนามภายในพื้นที่เรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยยกตัวอย่างเรือนจำนราธิวาสเป็นต้นแบบ โดยขอให้ประชาชนมั่นใจในการควบคุม เกิดความมั่นใจในมาตรการควบคุมโรคที่ได้มาตรฐาน
ขณะที่ นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ระบบการควบคุมการระบาดมี 2 รูปแบบคือ ควบคุมในพื้นที่เปิดที่มีกิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจที่ซับซ้อน โดยใช้แนวทางของ ศบค.เป็นหลัก และอีกรูปแบบคือการควบคุมในพื้นที่ปิด ที่มีกิจกรรมที่ไม่ซับซ้อน เช่น เกาะขนาดเล็ก เรือสำราญ โรงงานบางแห่งที่มีที่พักอยู่ภายใน รวมถึงเรือนจำ ทั้งหมดถือเป็นพื้นที่ปิด มีกิจกรรมทางสังคมที่ไม่ซับซ้อน ต้องใช้การควบคุมโรคอีกแบบหนึ่งที่แตกต่างออกไป
ทั้งนี้ หลังจากที่ได้ตรวจพบการติดเชื้อในเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ได้ขออนุมัติการใช้มาตรการการควบคุมโรคระบบ Bubble and Seal ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2564 โดยกระทรวงสาธารณสุขได้เข้าไปวางระบบในวันที่ 27 เมษายน 2564 ซึ่ง Setting ระบบโรงพยาบาลสนามเหมือนเรือนจำกลางนราธิวาสที่เคยทำมาแล้ว โดยมีสมมุติ ฐานว่าทุกคนในพื้นที่มีการติดเชื้อแล้ว ดังนั้น จึงมีแนวทางจำกัดขอบเขตการระบาดไม่ให้มีการกระจายจากแดนสู่แดน ไม่ให้มีการกระจายออกสู่พื้นที่ภายนอก ทั้งในระดับห้องขัง 14 วัน สองรอบ รวมทั้งหมด 28 วัน ซึ่งพบว่าอัตราส่วนจะไม่มีภูมิคุ้มกันไม่ถึงร้อยละ 10 ก็จะมีการตรวจสอบในรอบที่ 2 สิ้นสุดโครงการ คาดว่าจะสามารถคืนพื้นที่ควบคุมโรคโควิด-19 ให้เรือนจำกลางเชียงใหม่ภายใน 1 สัปดาห์ข้างหน้า
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เมื่อพบว่ามีการระบาดในพื้นที่ปิดใดๆ หมายความว่าทุกคนในพื้นที่นั้นมีโอกาสได้รับเชื้อแล้ว ซึ่งมาตรการ Bubble and Seal ที่ต้องเร่งดำเนินการคือ 1.จำกัดควบคุมเขตการระบาดไม่ให้มีการกระจายจากแดนสู่แดน และไม่ให้มีการกระจายสู่พื้นที่ภายนอก ในลักษณะ Seal เป็นเวลา 28 วัน 2.ระหว่างการควบคุมโรค ต้องเร่งค้นหาผู้ที่มีอาการ เพื่อรักษาโดยเร่งด่วน 3.มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำที่มีขีดความสามารถสูง เพื่อรองรับตั้งแต่ผู้ป่วยระดับสีเขียว สีเหลือง สีส้ม และสีแดง ซึ่งถึงวันนี้เป็นเวลา 3 สัปดาห์แล้วพบว่ามีผู้ต้องขังสีแดงจำนวน 6 รายที่นำออกมารักษาข้างนอก 4. มีการตรวจสอบผู้ต้องขังครบ 14 วัน 2 รอบ โดยเมื่อครบ 28 วันคาดว่าจะเหลือผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10% ที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกัน
พล.ต.วุฒิไชย อิศระ รองเจ้ากรมการแพทย์ทหารบก กล่าวว่า ภายใต้ขีดจำกัดของกฎระเบียบของเรือนจำ การดำเนินงานจะเป็นการส่วนประสานเจ้าหน้าที่เรือนจำกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และโรงพยาบาลในเครือข่าย เพื่อลดภาระงานลง ลดการส่งออกผู้ป่วยที่มีอาการสีเหลือง-สีเขียวเข้ม ออกสู่ภายนอกได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามกองทัพบกในเรือนจำ สามารถพัฒนาปรับปรุงผู้ป่วยในระดับช่วยหายใจได้ หลังจากนั้นจะเน้นเรื่องความมั่นคง โดยวางมาตรการเชิงรุกที่จะทำให้เรือนจำปราศจากเชื้อโดยเร็วที่สุด ตัวเลขผู้มีภูมิคุ้มกันในเรือนจำ 1 ใน 4 ของตัวเลขผู้ติดเชื้อ ขณะนี้มี 60% ที่ยังติดเชื้ออยู่ คาดว่าประมาณ 1,700 คนจะไม่แพร่เชื้อแล้ว และเชื่อมั่นว่าจะไม่มีการแพร่กระจายสู่ภายนอก
“ตัวเลขผู้ต้องขังในเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ขณะนี้ ตัวเลขยังไม่ค่อยนิ่ง เนื่องจากมีผู้ต้องขังเข้าใหม่ตลอดเกือบทุกวัน ซึ่ง ณ วันนี้ มียอดผู้ต้องขังเรือนจำกลางเชียงใหม่ 6,311 คน ติดเชื้อทั้งหมด 3,793 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีภูมิคุ้มกันแล้วราว 1,532 คน ไม่ติดเชื้อแล้วจำนวน 923 คน ขณะที่มีจำนวนผู้คุมที่ติดเชื้อจำนวน 7 คน จากทั้งหมด 9 คน”พล.ต.วุฒิไชยกล่าว
นายสุรศักดิ์ เผื่อนคำ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่ กล่าวว่า เรือนจำกลางเชียงใหม่มีทั้งหมด 10 แดน ส่วนแดนที่ 4 มีการติดเชื้อ ก็ได้แยกผู้ติดเชื้อออกเพื่อเข้าสู่กระบวนการควบคุม ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ขออภัยในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อมีการระบาดไปในแดน 6-7-8 ต่อเนื่อง ทำให้เกิดการติดเชื้ออย่างรวดเร็ว ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งใหญ่ของเรือนจำกลางเชียงใหม่ จึงต้องเร่งควบคุมใช้เวลานานขึ้น รวมถึงการ Swop เชื้อต่อเนื่อง โดยอีกทางหนึ่งทางเรือนจำก็ได้จัดหายาและสมุนไพรเสริมให้ผู้ต้องขังที่ติดเชื้อได้กินควบคู่ไปด้วย อาทิ ยาฟ้าทะลายโจร น้ำขิง น้ำกระชายขาว และวิตามินซี ซึ่งพบว่าผู้ต้องขังที่ติดเชื้อกว่า 3,000 คนก็หายขึ้นมา มีภูมิคุ้มกันขึ้นมากว่า 3,000 คน มีอาการดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ และทุกคนมีกำลังใจที่ดีต่อผู้ต้องขังแดนอื่นๆและพร้อมที่จะช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายในอนาคต