สุราษฎร์ธานี-ศาลแขวงสุราษฎร์ธานีลงโทษหนุ่มวัย 38 ปีออกจากบ้านไม่ใส่หน้ากากอนามัยละเมิดคำสั่งจังหวัดในการคุมโควิดสั่งปรับ 4 พันบาทจำเลยลดสารภาพลดเหลือ 2 บาท
เมื่อวันที่ 21 เมษายน ศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ได้ออกประกาศข่าวศาล จับจริง ปรับจริง โดยวันนี้พนักงานอัยการคดีศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ได้ยื่นฟ้องผู้ฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัย เป็นผู้ชาย 1 ราย อายุ 37 ปีอาศัยในพื้นที่ อ.เมือง ตามคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 2323/2564 เรื่อง ให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถานหรือสถานที่พำนักของตน ในฐานความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราช บัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 โดยศาลมีคำพิพากษาปรับ 4,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับ 2,000 บาท
ขณะที่ บริเวณอาคารเอนกประสงค์รินทอง วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี ได้มีประชาชน ประมาณ 300 คนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ไปเที่ยวสถานบันเทิง 8 แห่งใน อ.เมืองสุราษฎร์ธานี และนักศึกษาที่ไปร่วมงานรับประกาศนียบัตร ได้ทยอยเดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ ได้พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 41 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มคลัสเตอร์สถานบันเทิงที่พบจากการตรวจหาเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงสูงด้วยรถตรวจหาเชื้อชีววิทยาพระราชทานจำนวน 326 ราย ส่งผลให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 273 ราย รักษาหายแล้ว 8 ราย เหลือยังรักษาที่โรงพยาบาล 265 ราย โดยล่าสุด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีประกาศด่วนให้ผู้สัมผัสใกล้ชิดในครัวเรือน ที่อยู่บ้านเดียวกับผู้ป่วยโควิด-19 ทุกคนและบุคคลที่มีประวัติใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 ให้ไปรับการตรวจหาเชื้อโดยรถพระราชทานเคลื่อนที่ ที่วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี ภายในวันที่ 22 เมษายนนี้
นพ.ศักดิ์ชัย ตั้งจิตวิทยา ผู้อำนวยการโรงพยายาลสุราษฎร์ธานี ในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนามสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ขณะนี้ได้คัดกรองผู้ป่วยในกลุ่มที่ไม่มีอาการไปพักตัวเพื่อควบคุมโรคในโรงพยาบาลสนามท่าโรงช้าง อ.พุนพิน 96 ราย และโรงพยาบาลสนามราชภัฏสุราษฎร์ธานี 40 ราย รวม 136 ราย และภายใน 2 สัปดาห์นี้ถ้าสามารถค้นหาผู้ป่วย และนำตัวไปควบคุมโรคได้สถานการณ์แพร่ระบาดคลัสเตอร์สถานบันเทิงจะลดลง ซึ่งได้เตรียมโรงพยาบาลสนามไว้ 400 เตียง จะเพียงพอต่อการองรับผู้ป่วย