THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

21 เมษายน 2564 : 13:31 น.

บุรีรัมย์-หลวงปู่องค์ดำหายตัวไปจากสำนักปฎิบัติธรรมแล้วหลังหลายหน่วยงานเข้าไปตรวนสอบพฤติกรรม ผงะเจอจีวร ตาลปัตร อุปกรณ์สำหรับทำเครื่องรางของขลังและสักยันต์กระจายเกลื่อนกระท่อมในป่าหลังที่พักสงฆ์ 

ความคืบหน้ากรณีมีชายอ้างตัวเป็นหลวงปู่พุทธเทพสุริยะจักรวาล หรือหลวงปู่องค์ดำ นุ่งห่มผ้าคล้ายจีวรเหมือนพระแต่เป็นสีดำ อยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรม หรือที่พักสงฆ์หินเพิง ท้ายหมู่บ้านเขาย้อยพัฒนา ม.16 ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ หลังจากมีหญิงสาวชาวจ.ชัยภูมิ เข้าแจ้งความว่า มารดามีอาชีพเป็นครูหนีมาอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าว เกรงว่าแม่จะถูกหลอกเพราะเงินเดือนแม่เกือบ 1 แสนบาทไม่เหลือ ถึงขั้นสร้างสำนักไว้หลังบ้านที่จ.ชัยภูมิด้วย  จนนำไปสู่การตรวจสอบว่า ลวงปู่องค์ดำ เชื่อมโยงกับลัทธิใดหรือมีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมตามที่ถูกกล่าวหาจริงหรือไม่ และพื้นที่ที่ตั้งสำนักปฏิบัติธรรมถูกต้องหรือไม่

ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปยังสำนักปฏิบัติธรรมหินเพิง อ.ปะคำ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับหลวงปู่องค์ดำอีกครั้ง แต่ไม่พบมีเพียงลูกศิษย์คนที่ดูแลสำนักปฏิบัติธรรม และป้าที่อ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดิน จากการสอบถามลูกศิษย์คนสนิทบอกเพียงว่าหลวงปู่ได้บอกจะไปธุดงค์ในป่าจากนั้นก็ไม่มีใครเห็นหลวงปู่อีกก็ไม่มีใครรู้ว่าหลวงปู่จะกลับมาตอนไหน

นายบุญมี กลมมารี ผู้ใหญ่บ้านเขาย้อยพัฒนา ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูบริเวณที่พักหรือกุฏิของหลวงปู่องค์ดำก็ไม่พบหลวงปู่ เมื่อไปดูที่บริเวณกระท่อมในป่าด้านหลังที่พักสงฆ์ก็ไม่เห็นมีใครมีเพียงเต็นท์ 1 หลัง ในเต็นท์มีขวดน้ำเปล่า น้ำหวาน และผ้าห่ม เมื่อตรวจสอบโดยรอบก็ต้องผงะเมื่อเจอจีวรพระ ตาลปัตร อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับทำเครื่องรางของขลัง และสักยันต์ ซ่อนตามจุดต่างๆในกระท่อมไม่ทราบว่าเป็นของใครเพราะหลวงปู่องค์ดำก็ปฏิเสธตลอดว่าไม่ใช่พระ แต่เป็นตัวแทนขององค์เทพสุริยะจักรวาล จึงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบดูว่าเข้าข่ายความผิดอะไรหรือไม่

นายบุญมี กล่าวว่า หลวงปู่องค์ดำได้มาอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมได้ประมาณ 3 ปีกว่าแล้ว ตนเพิ่งรู้จักได้ประมาณปีเศษเพราะมีลูกศิษย์ชักชวนมา จนเกิดความศรัทธา ส่วนกระแสข่าวที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้เสื่อมความศรัทธาจากหลวงปู่องค์ดำลง เพราะเท่าที่เห็นหลวงปู่ก็สอนลูกศิษย์ให้เป็นคนดี ทำในสิ่งที่ดี ไม่เคยเห็นรับเงินหรือขอบริจาคจากใคร ส่วนที่ดินที่สร้างที่พักสงฆ์หินเพิงป็นที่ของชาวบ้านคนหนึ่งในหมู่บ้าน ที่ได้รับจัดสรรและมีการเสียภาษี ภ.บ.ท.5 หรือภาษีดอกหญ้าให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่  มอบถวายให้ก่อสร้างที่พักสงฆ์ ไม่ได้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน อย่างไรก็ตามหากมีหลักฐานว่าหลวงปู่องค์กรกระทำผิด ทั้งเรื่องการหลวงลวงหรือที่ดินที่กำลังถูกตรวจก็ว่ากันไปตามหลักฐานท่านก็เคยบอกว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ