ภูเก็ต-เจ้าของโครงการเดอะพีคเรสซิเด้นซ์ยอมรับคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างและทุบรื้ออาคารภายใน 30 วัน
เมื่อวันที่ 2 ก.พ.64 จากกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดได้ตัดสินยืนตามศาลชั้นต้นให้ “เดอะพีค เรสซิเดนซ์” คอนโดพักอาศัยบนเนินเขา ต.กะรน จ.ภูเก็ตต้องรื้อถอน โดยศาลปกครองชั้นต้น ตัดสินว่า ที่ดินแปลงที่ก่อสร้างเดอะพีค เรสซิเดนท์ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก. ซึ่งคดีนี้สืบเนื่องมาจากนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พลังประชารัฐ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้รับเรื่องร้องเรียนจึงลงพื้นที่ทำการตรวจสอบพื้นที่การก่อสร้าง จนทำให้เทศบาลกะรน สั่งชะลอการก่อสร้างระหว่างตรวจสอบและรอศาลปกครองสูงสุดตัดสิน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ศาลปกครองชั้นต้น (นครศรีธรรมราช) ตัดสินแล้วว่า เอกสารสิทธิ์ได้มาโดยมิชอบ ให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ มีการยื่นอุทธรณ์ ใบอนุญาตก่อสร้างก็ไม่น่าจะถูกต้อง เพราะขออนุญาตเป็นสร้างคอนโดที่พักอาศัย ซึ่งกฎหมายให้ใช้โฉนด ไม่ใช่ น.ส.3 ก. แต่เอกสารสิทธิ์ที่มีเป็น น.ส.3
นายมนัสนันท์ นรารัตน์วันชัย เจ้าของโครงการเดอะพีคเรสซิเดนซ์ เปิดแถลงว่า ที่ดินแปลงนี้มีคำพิพากษาสูงสุดพิพากษาเสร็จสิ้นแล้วว่าต้องเพิกถอน เราไม่ Happy กับคำพิพากษาแต่ต้องยอมรับ การเปิดแถลงข่าวเพื่อชี้แจงถึงลูกค้าของโครงการ ได้รับทราบถึงคำพิพากษาฯ และ การดำเนินการต่อไปของบริษัทฯ และทางเทศบาลตำบลกะรนได้มีคำสั่งให้ทำการเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างให้ทุบรื้ออาคารภายใน 30 วัน ในเรื่องนี้ทางเทศบาลตำบลกะรนทำตามกฎหมาย ซึ่งการรื้อถอนเราได้ยื่นอุทธรณ์ต่อทางจังหวัดและต่อเทศบาลแล้ว ผลของคำอุทธรณ์ยังไม่ปรากฎแต่ต้องทำตามที่ทางการกำหนด
"เราเป็นผู้ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวเรารับผิดชอบต่อลูกค้าโดยย้ายลูกค้าทั้งหมดในโครงการฯนี้ ไปอยู่โครงการของบริษัทฯที่ใหญ่กว่านี้ และที่ดินแปลงดังกล่าวมีโฉนด อยู่ที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ห้องที่ขายไปของเดอะพีคฯ มีจำนวน 435 ห้อง ทำสัญญาผูกพันเอกสารสัญญา 399 ห้อง ได้มีการยืนยันย้ายไปแล้ว 180 ห้องยังอยู่ระหว่างติดต่อเอกสาร 170 ห้องและเหลือ 49 ห้องยังไม่ได้ย้าย ขอให้ลูกค้าที่ยังไม่ได้ย้ายให้รีบมาติดต่อทางเจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้าเพื่อเลือกห้องดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆในโครงการใหม่ที่หาดสุรินทร์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในจ.ภูเก็ต กระทบต่อภาพอสังหาริมทรัพย์ ที่มีโครงการต่างๆที่ขายในภูเก็ตประมาณ 30 โครงการในแต่ละปี นำเงินเข้ามาเกือบ 2 หมื่นล้านบาทแทบทุกปี ซึ่งโครงการเดอะพีคฯมีมูลค่า 2,100 ล้านบาท"นายมนัสนันท์กล่าว
ทั้งนี้ ขอฝากถึงผู้ใหญ่ผู้เกี่ยวข้องว่ายอมรับคำพิพากษาและยอมรับคำสั่งเจ้าหน้าที่รัฐยินดีปฏิบัติตามคำสั่ง การที่มีข้อพิพาทเกี่ยวข้องอยากให้ทบทวนว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับภาพลักษณ์จังหวัด อยากให้ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ยอมถอยคนละก้าว วันนี้คำพิพากษาบริษัทัทก็ถอยแล้วยอมรับความเสียหายและไม่ละทิ้งลูกค้าทุกคน ขอให้นำเหตุการณ์นี้ไปทบทวนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนและคนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนต่อไป