ประจวบคีรีขันธ์-คณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมามีมติให้รอดูสถานการณ์และท่าทีของเมียนมาก่อนพิจารณาผ่อนผันให้เปิดด่านสิงขรเพื่อการนำเข้า-ส่งออกสินค้า
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ห้องประชุมชั้น 1 องค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อติดตามสถานการณ์และดำเนินการตามข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทย ที่ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับประเทศเมียนมา เพิ่มการเฝ้าระวัง ติดตามข่าวสารและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เกิดการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองมากขึ้น รวมทั้งให้เฝ้าระวังกลุ่มบุคคลไม่ให้ใช้ดินแดนประเทศไทยเคลื่อนไหวทางการเมืองที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หลังเกิดเหตุการณ์รัฐประหารในประเทศเมียนมา
ทั้งนี้ ในส่วนของจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบฯ ซึ่งเป็นช่องทางการค้าระหว่างประเทศ ที่ผ่านมา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มีการระงับการเข้า-ออกของบุคคล ยานพาหนะ และการนำเข้า-ส่งออกสินค้าทุกประเภท เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศเมียนมาที่มีแนวโน้มดีขึ้นในปัจจุบัน คณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดประจวบฯ จึงมีมติเมื่อวันที่ 29 มกราคม2564 ผ่อนผันให้ผู้ประกอบการไทยสามารถนำเข้า-ส่งออกสินค้าบางประเภทได้ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดตามมาตรการด้านสาธารณสุข เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม โดยมีการกำหนดจุดขนถ่ายสินค้าที่บริเวณแนวสันแดนระหว่างประเทศ มีกำหนดผ่อนผันในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 แต่เนื่องด้วยขณะนี้เกิดสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศเมียนมา ที่ประชุมจึงได้มีมติให้ชะลอการผ่อนผันเปิดด่านสำหรับการขนถ่ายสินค้าออกไปก่อน หลังจากนั้นจะมีการประเมินสถานการณ์และท่าทีของทางเมียนมาอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ได้กำชับเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคง ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้เข้มงวดเฝ้าระวังป้องกันคนต่าวลักลอบเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติตลอดแนวชายแดนไทย-เมียนมาทั้ง 8 อำเภออย่างเข้มข้นต่อเนื่อง