ปทุมธานี-แกนนำคณะราษฏรพร้อมด้วยสมาชิกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมบุกให้กำลังใจ"ณัฐชนน ไพโรจน์"นักศึกษามธ.เข้ารับทราบข้อหาผิดตาม ม.112
เมื่อวันที่ 11 ม.ค.นายณัฐชนน ไพโรจน์ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามความผิดมาตรา 112 ที่สภ.รคลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมี นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล และสมาชิกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ประมาณ 10 คน เดินทางมาให้กำลังใจ จากกรณีการจัดทำหนังสือ “ปรากฎการณ์สะท้านฟ้า 10 สิงหา ข้อเรียกร้องว่าด้วยสถาบันกษัตริย์" โดนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.อ.ฤทธินันท์ ปุ้ยพันธ์วงศ์ รอง.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจลจำนวน 1 กองร้อย พร้อมแผงเหล็กมากั้นพื้นที่โรงพักไว้ เพื่อความสงบเรียบร้อย
นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ตนมีข้อสังเกตอยู่ 2 ประเด็นว่า เดิมทีหนังสือปรากฎการณ์สะท้านฟ้า มีการตรวจยึดไปตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. 2563 เป็นการถอดเทปคำปราศัยของนายอานนท์ นำภา รุ้ง-ปนัสยา ไมค์-ภาณุพงษ์ เพนกวิน-พริษฐ์ แต่หลังจากที่มีการตรวจยึดไปก็ไม่เคยมีการดำเนินคดีในเรื่องนี้ จนกระทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ออกมาแถลงการณ์ว่าจะใช้กฎหมายทุกเรื่อง ทุกมาตรา รวมถึงมาตรา 112 ดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมทุกคน ถึงได้มีการดำเนินคดีในครั้งนี้ ก็เลยมีข้อกังวนว่าการดำเนินคดีเกี่ยวข้องกับนโยบายหรือคำแถลงการณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ ประเด็นที่ 2 หนังสือเล่นนี้ ไม่มีคำปราศัยที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาเลยคือ ผู้ต้องหาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในหนังสือ ดังนั้นการเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ก็เป็นข้อห่วงกังวลและเป็นคำถามว่า ผู้ต้องหาเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไร และเรื่องนี้ก็ต้องขึ้นไปฟังพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาอีกครั้ง
ด้าน นายเพนกวิน กล่าวว่า พวกเราพากันมาให้กำลังนายณัฐชนน ทางออนไลน์จะมีการตั้งจอเพื่อให้พี่น้องได้ให้กำลังใจร่วมกันผ่านทางออนไลน์ โดยไม่มีการสุ่มเสี่ยงต่อโรคแต่อย่างใด
จากนั้นทางกลุ่มนักศึกษาได้นำลำโพง และจอโปรเจคเตอร์มาตั้งเพื่อเตรียมเปิดให้เพื่อนที่ไม่ได้มาส่งกำลังใจให้ณัฐชนน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาขัดขวาง เพราะพื้นที่ สภ.คลองหลวงได้ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุม ห้ามผู้ได้ประพฤติตนก่อความวุ่นวาย ห้ามมิให้นำเครื่องขยายเสียงมาเปิด จึงได้ขนเครื่องเสียงกลับไปคืนที่รถ ทำให้ทางผู้มาให้กำลังใจไม่พอใจการทำงานของตำรวจ แต่ไม่ได้มีความรุนแรงอะไร พร้อมทั้งยอมออกจากพื้นที่ แล้วไปรวมตัวกันอยู่ริมถนนหน้าโรงพักแทน ก่อนที่นายณัฐชนน พร้อมทนายความได้เดินเข้าไปเพื่อพบกับพนักงานสอบสวน
นายณัฐชนน ให้สัมภาษณ์ภายหลังพบพนักงานสอบสวนว่า ทางตำรวจได้แจ้งให้ทราบว่า มีการฟ้องเรื่องอะไรบ้าง ทำผิดอะไรบ้าง บางอย่างก็จริงบางอย่างก็ไม่จริง บางอย่างก็จำเป็นต้องพูดคุยกันอยู่ว่า มันถูกต้องหรือผิดอย่างไร ยังมีความคุมเครืออยู่หลายจุด ทางเราก็จะได้รวมรวบพยานหลักฐานส่งตำรวจอีกครั้งตามขั้นตอน ในเบื้องต้นตนปฏิเสธ ข้อกล่าวหา