ประจวบคีรีขันธ์-ช้างป่ากุยบุรีตัวที่บาดเจ็บตายแล้วเจ้าหน้าที่ผ่าซากพบหัวกระสุนปืนฝังตามตัวกว่า40นัด สาเหตุการตายเกิดจากอวัยวะภายในล้มเหลว

เมื่อวันที่ 10 มกราคม นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่าได้รับรายงานจาก น.ส.สุพร พลพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เกี่ยวกับความคืบหน้าการรักษาพลายขนุน ช้างป่าอายุประมาณ 20-25 ปี น้ำหนัก 3 ตัน ที่บาดเจ็บบริเวณขาพับในข้างขวาและมีอาการบวมโดยไม่ทราบสาเหตุ ในพื้นที่หมู่ 4 บ้านท่าวังหิน ต.เขาจ้าว อ.ปราณบุรี ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2563 โดยทีมสัตวแพทย์ได้เคลื่อนย้ายช้างป่าไปรักษา ที่ทำการอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ต.หาดขาด อ.กุยบุรี แต่ขณะทำการเคลื่อนย้ายมาถึงที่ทำการอุทยานฯ ช้างป่ามีอาการหัวใจหยุดเต้น เจ้าหน้าที่ได้ช่วยปั๊มหัวใจ แต่ช้างสิ้นใจตายในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ หน้าที่จากกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 ค่ายพระมงกุฎเกล้า ได้ตรวจหาวัตถุด้วยเครื่องสแกนโลหะตามตัวช้าง พบเศษโลหะ 25 จุด ผลจากการผ่าชันสูตร พบกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 40 นัด ลูกกระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 2 นัด และลูกปลาย จำนวน 1 นัด พบกระสุนในจุดสำคัญบริเวณใต้เบ้าตา 2 นัด เป็นเหตุทำให้ตาขวามีอาการอักเสบมองไม่เห็นมีลักษณะเป็นฝ้าขาว ส่วนขาหน้าด้านซ้าย พบกระสุนในกระดูก 3 นัด มีหนองในข้อกระดูกจำนวนมาก พบกระสุนทะลุซี่โครงซี่ที่ 7 ซี่ที่ 9 จำนวน 2 นัด และกระสุนอีก 38 นัด กระจายอยู่ทั่วบริเวณงวง ใต้รักแร้ และลำตัว การชันสูตรสันนิษฐานสาเหตุการตายจากอวัยวะภายในล้มเหลว

นายพิชัย กล่าวว่า หน้าที่หลายฝ่ายช่วยกันรักษาอาการช้างป่าอย่างเต็มที่ หลังพบอาการบาดเจ็บตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา จากการพิจารณาพฤติกรรมของช้างป่าพบว่ามีนิสัยดุร้าย เนื่องจากถูกขับไล่ หรือไล่ยิงจากคนบ่อยครั้ง ทำให้ช้างป่ามีพฤติกรรมกลัวคนจะเข้ามาทำร้าย และต้องมีอาการดุร้ายเพื่อป้องกันตัวเอง โดยช้างได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติกุยบุรีเสียชีวิต 1 ราย ขณะเข้าช่วยเหลือเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2563