นครศรีธรรมราช-ตร.เชียรใหญ่จับ 3 โรฮีนจาได้คาบ้านเช่านำไปกักตัวไว้ได้แค่ 1 คืนหนีหายเข้าหลีบเมฆ นายอำเภอเต้นสั่งเร่งล่าตัว แต่ชาวบ้านผวาหนักหวั่นเป็นตัวแพร่เชื้อโควิด-19
จากกรณีที่ พ.ต.อ สิชา พูลวงษ์ ผกก.สภ.เชียรใหญ่ พร้อมด้วย พ.ต.ท พสิษฐ์ ทองจันทร์ฉัตร์ รอง ผกก.ป.สั่งการให้กำลังตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านเช่าเลขที่ 424/1 หมู่ 7 ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นห้องแถวพร้อมจับกุมชาวโรฮิงยา 3 คนเป็นหญิงทั้งหมด หลังจากสืบทราบมาว่ามีกลุ่มนายหน้านำกลุ่มต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาพักรอในพื้นที่ อ.เชียรใหญ่เพื่อจะส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซีย
หลังจับกุมตัวได้ทางนายกิตติพงษ์ รองเดช อำเภอเชียรใหญ่ ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเชียรใหญ่ ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบพบเป็นชาวโรฮีนจาเพศหญิง อายุ 16 ปี 2 คน และอายุ 17 ปี 1 คน ไม่มีเอกสารการเดินทาง และไม่สามารถสื่อสารหรือเข้าใจภาษาไทยได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการคัดกรองเบื้องต้น พบว่าอุณหภูมิร่างกายปกติ ไม่มีไข้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ประสาน รพ.เชียรใหญ่ เพื่อเก็บตัวอย่างส่งตรวจเชื้อโควิด-19 ต่อไปแล้ว และได้นำมากักตัวที่บ้านเช่าหลังดังกล่าว
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ม.ค. พบว่าชาวโรฮิงยาทั้ง 3 คนได้หายออกไปจากบ้านเช่าหลังดังกล่าวแล้ว พบว่ามีร่องรอยตัดกุญแจที่ประตูหลังบ้านออกไปทางป่าละเมาะ ขณะที่นายอำเภอได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังทั้งตำรวจและฝ่ายปกครองพยายามออกค้นหาทั่วบริเวณแต่ไม่เจอ เบื้องต้นคาดว่า น่าจะหนีไปได้ไม่ไกล หรืออาจจะมีกลุ่มนายหน้ามานำตัวหลบหนีไปก็ได้ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเจ้าของบ้านเช่าไว้ส่วนหนึ่งแล้ว และจะติดตามผู้เช่าบ้านมาสอบปากคำโดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อตามตัวนายหน้ามาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับชาวโรฮีนจาทั้ง 3 คนทราบว่ามาพักอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าดังกล่าวประมาณกว่า 1 เดือน เพื่อรอและเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย นอกจาก อ.เชียรใหญ่ แล้ว ยังมีพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ เป็นอำเภอที่นายหน้านำชาวโรฮีนจาเข้ามาพักเพื่อรอเดินทางต่อ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ที่ อ.เชียรใหญ่ ส่วน อ.เฉลิมพระเกียรติ ไม่พบแต่อย่างใด แต่จากสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ หลังชาวบ้านในพื้นทราบข่าวว่าชาวโรฮีนจามาอยู่ในชุมชนไม่ไกลจากตลาดบ่อล้อซึ่งเป็นตลาดใหญ่ ต่างพากันหวาดวิตกกันว่าจะนำเชื้อมาแพร่ระบาดได้