พช.จัดกิจกรรมกองทุนพัฒนาเด็กชนบทเคลื่อนที่ (Children Development Fund Mobile : CDF Mobile) มอบทุนแก่เด็กด้อยโอกาสในชนบทห่างไกล
เมื่อวันที่ 17 มกราคม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.)พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน ร่วมมอบทุนอุปการะเด็ก จำนวน 20 ทุน ๆ ละ 1,200 บาท และของใช้จำเป็นสำหรับเด็ก จำนวน 20 ชุดๆ ละ 1,000 บาท แก่เด็กก่อนวัยเรียนที่ครอบครัวยากจนและด้อยโอกาส ให้ได้รับการพัฒนาอย่างทั่วถึงและเหมาะสมตามวัย โดยมีนายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวต้อนรับ ในการนี้นายปฐมพงษ์ จันทร์สว่าง พัฒนาการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะฝ่ายเลขานุการ กองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวรายงานความเป็นมาของกิจกรรมกองทุนพัฒนาเด็กชนบทเคลื่อนที่ฯ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ณ ศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมกองทุนพัฒนาเด็กชนบทเคลื่อนที่ในวันนี้ เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือให้เด็กได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสมตามวัย และเพื่อประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของกองทุนพัฒนาเด็กชนบทฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงมีความห่วงใยเด็ก และเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ โดยเฉพาะเด็กก่อนวัยเรียนต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ในด้านพัฒนาการให้เหมาะสมกับวัยทั้งทางร่างกายและจิตใจ ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ ประการแรกเด็กต้องได้รับความรัก ความอบอุ่นจากพ่อแม่ผู้ปกครอง ประการที่ 2 ด้านร่างกาย ให้เด็กได้รับประทานอาหารครบทุกหมู่ต้องให้เด็กได้กินไข่ทุกวัน เพราะไข่มีสารอาหารครบถ้วน ทุกหมู่เด็กจะได้กินไข่ทุกวันพ่อแม่ผู้ปกครองต้องช่วยเลี้ยงไก่เลี้ยงเป็ดทุกบ้าน เช่น มีลูก2คนเลี้ยงไก่ 10 ตัว ทุกบ้านปลูกพืชผักสวนครัวรั้วกินได้ จะได้มีผักผลไม้ เช่น กล้วย เป็นอาหารที่เป็นยาไร้สารพิษให้ลูกกิน เป็นต้น และสุดท้ายเด็กต้องได้รับการศึกษา ที่ให้มีพัฒนาการทั้งสมอง ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม มีทั้งความรู้และความสามารถช่วยเหลือตนเองได้ เช่น ปลูกผัก เลี้ยงไก่ ทำอาหาร เป็นด้วย
ทั้งนี้ ทุนการศึกษาจึงจำเป็นสำหรับครอบครัวยากไร้ แต่ต้องไม่ดูแลเฉพาะช่วง 2-6 ขวบ ต้องดูแลให้ถึงที่สุดที่เด็กจะเรียนได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ข้าราชการของกรมการพัฒนาชุมชนที่จังหวัดต้องช่วยทำฐานข้อมูลของเด็กและช่วยติดตามดูแลให้เด็กได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทางกรมฯ ได้มอบหมายให้พัฒนาการจังหวัด พัฒนากร ในพื้นที่ได้มีระบบติดตามเด็กที่ได้รับการอุปการะ ว่ามีพัฒนาการไปในทิศทางที่ดีขึ้นหรือไม่ต้องได้รับการช่วยเหลือเพิ่มเติมอย่างไร เพื่อให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในสังคมต่อไป นับเป็นความภาคภูมิใจของพวกเราทั้งหมดที่ได้สนองงานพระองค์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ เพื่อให้ลูกหลานได้รับสิ่งที่ดีตั้งแต่เยาว์วัย เป็นคนดีของสัมคมต่อไป
อย่างไรก็ตาม กรมการพัฒนาชุมชน ได้จัดตั้งกองทุนพัฒนาเด็กชนบท เมื่อปี 2522 เพื่อเป็นกองทุนสำหรับ ให้ความช่วยเหลือเด็กก่อนวัยเรียน ที่ครอบครัวยากจนและด้อยโอกาส ให้ได้รับการพัฒนาอย่างทั่วถึงและ เหมาะสมตามวัย โดยในปี 2536 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณา รับกองทุนพัฒนาเด็กชนบทไว้ในพระราชูปถัมภ์ และพระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้ชื่อว่า “กองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ประกอบด้วย กองทุนพัฒนา เด็กชนบทส่วนกลางและจังหวัด 76 จังหวัด โดยทุกกองทุนได้จัดกิจกรรมเพื่อหารายได้สมทบกองทุนฯ เป็นประจำทุกปี และนำเงินกองทุนฯ ไปใช้ในการทำกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กก่อนวัยเรียนอายุแรกเกิด ถึง 6 ปี