THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

16 มกราคม 2563 : 19:43 น.

บุรีรัมย์-โจรงัดเซฟร้านทองห้างดังกวาดเกือบ 4 ล้านยังไม่ซัดทอดใคร เพื่อนสาวผู้ต้องหาโร่นำทองส่งคืนตำรวจแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังคนร้ายนำไปมอบให้อ้างถูกหวยเลยซื้อมาฝาก

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ความคืบหน้ากรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดชุดสืบสวนภูธรจ.บุรีรัมย์ และชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้จับกุมนายประวิทย์ ไชยคีนี อายุ 32 ปีชาวจ.เพชรบูรณ์ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุบุกเดี่ยวเข้าไปงัดตู้เซฟร้านทอง “เยาวราชสินทวี” ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ตั้งอยู่ ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ขโมยทองคำรูปพรรณ ทั้งสร้อยคอ กำไล แหวนทองน้ำหนักรวม 163 บาท คิดเป็นมูลค่าเกือบ 4 ล้านบาท อีกทั้งยังขโมยโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กภายในห้างดังกล่าวด้วย เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 28 ธ.ค.62

ล่าสุดพนักงานสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบได้ด้ควบคุมตัวนายประวิทย์ ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังห้างที่เกิดเหตุ และร้านทองภายในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ที่คนร้ายอ้างว่านำทองไปขาย จนถึงขณะนี้ผู้ต้องหายังไม่ได้ซัดทอดถึงบุคคลใดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุ แต่จากพฤติการณ์การก่อเหตุและข้อพิรุธหลายอย่าง เช่น ชำนาญเรื่องเส้นทางเข้า-ออกห้าง รวมถึงตู้เซฟที่ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ได้ใส่รหัสและล็อกกุญแจไว้ จึงสามารถขโมยทองไปได้อย่างง่ายดายนั้น จึงเชื่อว่าน่าจะมีผู้สนับสนุนในการก่อเหตุครั้งนี้ด้วย ซึ่งตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสาวหาตัวผู้ร่วมกระทำผิดเพิ่มเติมให้ได้โดยเร็ว

ทั้งนี้ เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ก็ได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวนเนื่องจากมีมูลค่าทรัพย์สินที่ค่อนข้างมาก และได้นำตัวไปส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ในช่วงบ่าย

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งอ้างว่า เคยทำงานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใกล้ห้างที่เกิดเหตุกับผู้ต้องหาได้นำกำไลข้อมือ 2 อัน และแหวนทอง 1 วง มาส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ อ้างเคยทำงานห้างเดียวกันและคบหากับผู้ต้องหาก่อนหน้านี้ ก่อนผู้ต้องหาถูกจับกุมจู่ๆ นำทองมาให้ บอกว่าเขาถูกลอตเตอรี่จึงซื้อทองมาฝาก กระทั่งมารู้ข่าวภายหลังว่านายประวิทย์ ถูกจับกุมเพราะเป็นคนร้ายงัดเซฟร้านทองก็ตกใจกลัวจะมีความผิดด้วย จึงได้นำทองมาส่งมอบให้กับตำรวจเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้รู้เห็น

สำหรับ ทองคำรูปพรรณที่ผู้ต้องหาขโมยไปรวมน้ำหนัก 163 บาท แต่นำมาคืนได้จำนวน 101 บาท ส่วนที่เหลือผู้ต้องหาอ้างว่านำไปขายและจำนำแล้วก็จะได้ทำการสอบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติมว่านำไปขายแล้วจริงหรือไม่หรือยังซุกซ่อนไว้ที่ใด

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ