THAI NEWS

19 ตุลาคม 2562 : 14:43 น.

ผู้ว่าฯอุดรธานีลงนามความร่วมมือกับสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมรณรงค์ใส่ผ้าไทย สืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ปลุกเศรษฐกิจชุมชนสร้างงานสร้างอาชีพกว่า 9 พันล้าน นำร่อง จ.อุดรธานี

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ให้การต้อนรับ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน และ นางรชตพร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการจากสภาสตรีแห่งชาติ ฯเพื่อร่วมพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือ"โครงการสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” โดยนำร่องที่จ.อุดรธานีหลังจากนี้จะรณรงค์ ในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศต่อไป ณ โรงแรมเจริญโฮเต็ล จ.อุดรธานี

ทั้งนี้ การลงนามบึนทึกข้อตกลงในครั้งนี้ มีองค์กรสตรีในจ.อุดรธานีร่วมลงนาม ประกอบด้วย นางกอบแก้ว คงน้อย นายกสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิง จ.อุดรธานี ดร.ประกายแก้ว รัตนะนาคะ นายกสมาคมผู้นำสตรีพัฒนาชุมชนจ.อุดรธานี พญ.เฉลิมวรรณ ศศิประภา นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจหญิง และวิชาชีพแห่งประเทศไทย ดร.ยงฤดี พูลทรัพย์ นายกสมาคมสตรีอุดรธานี รศ.ดร.กฤตติกา แสนโภชน์ นายกสมาคมแม่ดีเด่นแห่งชาติอุดรธานี นายอิทธพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุดรธานี นำสตรีในองค์กรมาร่วมมางานและหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมด้วยองค์สตรี จ.อุดรธานีจำนวน 250 คน เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว

นอกจากนี้ มีการเสวนาเรื่องแนวทางส่งเสริมการใส่ผ้าไทยให้เป็นชีวิตประจำวัน โดย ดร.วันดี กล่าวว่า สตรีไทยโชคดีกว่าสตรีชาติใดในโลก เพราะเรามีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงฟื้นฟูผ้าไทยให้สตรีไทยได้มีอาชีพเสริมจากการทำไร่ ทำนา จนในปัจจุบันพัฒนาเป็นอาชีพหลัก

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า จ.อุดรธานีเป็นเมืองแห่งการใช้ผ้าไทย ข้าราชการใส่ผ้าไทย 6 วันต่ออาทิตย์ และมีการสนับสนุนให้ประชาชนร่วมกันใส่ผ้าไทยตักบาตรในทุกวันพระ

ขณะที่ นางประดิษฐ์ ครูทอผ้า กล่าวว่า การศึกษาจบระดับ ป.4 แต่เรียนรู้การทอผ้าจากภูมิปัญญาของพ่อแม่ จึงทำอาชีพทอผ้ามากว่า 30 ปี ตั้งแต่ขายได้ในราคาผืนละ 900 จนถึงปัจจุบันบางผืนมีราคาเป็น 100,000 บาท และยึดอาชีพทอผ้าเป็นอาชีพหลัก รายได้จากการขายผ้าที่ทอได้ สามารถส่งเสียบุตรเรียนหนังสือจนจบปริญญาตรี ยกระดับคุณภาพชีวิตในครอบครัว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน(พช.) กระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือ โครงการสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน ร่วมกันสภาสตรีแห่งชาติฯซึ่งมีองค์กรสมาชิก จำนวน 212 องค์กร กระจายอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมการใช้ผ้าไทย

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยการอนุรักษ์ ส่งเสริมและเผยแพร่ผ้าไทยศิลปะอันล้ำค่าของชาติให้ดำรงคงอยู่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ให้ชาวโลกได้ชื่นชม อีกทั้งเพื่อเชิดชูอัตลักษณ์คุณค่าผ้าท้องถิ่นให้เกิดกระแสความนิยมการแต่งกายผ้าไทยแก่ประชาชนทั่วไปทั่วประเทศ และยังสนับสนุนส่งเสริมการสร้างงานสร้างอาชีพและเสริมสร้างรายได้ให้กับกลุ่มสตรีในท้องถิ่นสภาสตรีแห่งชาติฯจึงได้จัดโครงการนี้ขึ้นมา

ดร.วันดี กล่าวว่า หากคนไทยทั้งประเทศพร้อมใจกันสวมใส่ผ้าไทยในทุกวันทั้งประเทศ จะช่วยเป็นการส่งเสริมการทอผ้าในชุมชน สร้างงาน สร้างอาชีพ ลดปัญหาการว่างงาน ลดปัญหาการย้ายถิ่นฐาน และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ ถ้าคนไทยร่วมมือร่วมใจกันใส่ผ้าไทย เพียง 30 ล้านคน จะมีความต้องการใช้ผ้าไทยถึง 300 ล้านเมตร/ปี เฉลี่ยราคาเมตรละ 300 บาทจะมีมูลค่ากว่าปีละ 9,000 ล้านบาท" ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯกล่าวเชิญชวน

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า เพื่อรณรงค์ให้คนไทยทั้งประเทศร่วมมือร่วมใจกันใส่ผ้าทอไทย ไม่ว่าจะเป็นผ้าฝ้าย ผ้าไหม เพื่อช่วยกันสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก ลดความเหลื่อมล้ำกระจายรายได้ให้แก่ชุมชน รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม และรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น

ทั้งนี้ การใส่ผ้าทอไทยทุกผืน ก่อให้เกิดรายได้กระจายไปยังชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสตรีกว่า 90% รายได้ที่เกิดจากการทอผ้าออกจำหน่ายจะสามารถช่วยสตรียกระดับคุณภาพชีวิต ส่งบุตรหลานให้มีโอกาสเล่าเรียน ดูแลครอบครัวได้เมื่อยามเจ็บป่วย สร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ