สมุทรปราการ- นักศึกษาหนุ่มคิดสั้นขี่จยย.มาจอดก่อนกระโดดสะพานภูมิพลหายไปกับสายน้ำ สอบพบก่อนก่อเหตุสลด 1 ชม.โพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อ แฟนสาวเผยเป็นโรคซึมเศร้าและเครียด

เมื่อเย็นวันที่ 17 ต.ค.ร.ต.อ. เทิดภูมิ ดวงปทุม รองสว.ส.สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ รปภ.ที่ดูแลสะพานภูมิพล 1 อ.พระประแดง ว่ามีชายกระโดดจากสะพานภูมิพล 1 ลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณช่วงกลางสะพาน หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกตัญญู ตรวจสอบ

จุดเกิดเหตุบริเวณกลางสะพานภูมิพล 1 ทิศทางขึ้นจากพระราม 3 มุ่งหน้าลงถนนสุขสวัสดิ์ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Yamaha รุ่น Fino สีน้ำเงินขาว หมายเลขทะเบียน 6กว-9448 กทม. จอดอยู่ด้านซ้าย โดยมีกุญแจเสียบคาไว้และหมวกกันน็อค จำนวน 1 ใบแขวนไว้และพบเสื้อคลุมสีเทาพร้อมโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่องวางอยู่บริเวณราวสะพานด้านนอก แต่ไม่พบตัวเจ้าของรถ

จากการตรวจสอบภายในรถ ใต้เบาะพบ เสื้อนักศึกษาสีขาว 1 ตัว และกระเป๋าสตางค์ มีบัตรประจำตัวประชาชนชื่อนายอนันต์ โต๊ะชาลี อายุ 23 ปี ที่อยู่ 146/1 หมู่ที่ 7 ต.นาสนุ่น อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ และยังพบบัตรประจำตัวนักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร รวมถึงเอกสารบัตรอื่นๆภายในกระเป๋าและมีเงินอยู่ประมาณ 80 บาทซึ่งเป็นแบงค์ 20

จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือพบว่า เครื่องถูกเปิดไว้ เมื่อตรวจสอบ Facebook ที่ชื่อตรงกับบัตรประชาชนเป็นภาษาอังกฤษ มีการโพสต์ข้อความล่าสุด 1 ชั่วโมงที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุ ข้อความเขียนว่า "ไม่มีเหี้ยอะไร ok ทั้งนั้นแหละ ไม่เคยมีตั้งนานแล้ว" จากนั้นตำรวจจึงได้หาข้อมูล เบอร์โทรศัพท์ญาติ เพื่อติดต่อสอบถามและแจ้งให้ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือพบว่า มีสายเข้ามาเป็นสายของน.ส.สุนิสา ทองประดิษฐ์ อายุ 23 ปี แฟนสาว เจ้าหน้าที่ได้แจ้งถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส.ส.สุนิสาได้ร้องโฮและเสียใจเป็นอย่างมาก ตำรวจจึงเชิญมาพบที่สภ.พระประแดง โดยน.ส.สุนิษาได้เดินร้องไห้ออกไปจาก สภ.พระประแดงและเดินไปบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาตรงเขื่อน ทำท่าเหมือนว่าจะกระโดดน้ำเช่นกัน ตำรวจจึงได้นำตัวกลับมาที่สถ.พระประแดงเพื่อติดต่อญาติและเพื่อนเพื่อมาดูแล

น.ส.สุนิษา เล่าให้ฟังว่า นายอนันต์มีอาการซึมเศร้า เครียดปัญหาเรื่องส่วนตัว ก่อนหน้าเกิดเหตุนายอนันต์ได้โทรหาแต่ตนลืมโทรกลับ จนมารู้ข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เร่งสืบหาสาเหตุที่แท้จริงของการก่อเหตุในครั้งนี้