เกิดเหตุคนปีนเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์สูง 50 เมตร หวังฆ่าตัวตายหลังเมียหอบลูกหนี ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนาน 3 ชั่วโมง จนยอมลงมา
เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2561 ร.ต.อ.ขัตติยะ เพชรกล้า รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งมีคนปืนเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ บริเวณหลังปั๊มแก๊สบ้านห้วย ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมและเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพโรงพยาบาลบุรีรัมย์ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกำลังมุงดูคนปีนขึ้นไปบนยอดเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งมีความสูงประมาณ 50 เมตร ทราบชื่อภายหลังคือ นายกฤษณชัย ผสมรัมย์ อายุ 51 ปี ชาว ต.ชุมเห็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ อยู่บริเวณยอดเสา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้พยายามเกลี้ยกล่อมให้ลงมาจากยอดเสาแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ ต่อมา นางเลี่ยม ใจรัมย์ อายุ 73 ปี ผู้เป็นแม่ พร้อมน้องสาวและนายจ้างของนายกฤษณชัยทราบข่าวจึงเดินทางมาที่เกิดเหตุ พยายามผลัดกันช่วยเกลี้ยกล่อมให้นายกฤษณชัยลงมาแต่ก็ไม่เป็นผลอีก
จนกระทั่งนายจ้างได้โทรศัพท์ติดต่อกับภรรยาของนายกฤษณชัยเพื่อให้พูดคุยกัน พร้อมรับปากว่าหากยอมลงมาจะพาเดินทางไปหาภรรยาที่ จ.พิษณุโลก ซึ่งทั้งแม่ น้องสาวและนายจ้าง ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่นานกว่า 3 ชั่วโมง ประกอบกับนายกฤษณชัยได้พูดคุยกับภรรยาทางโทรศัพท์จึงใจอ่อนและยอมปีนลงจากเสาโทรศัพท์อย่างปลอดภัย
นางเลี่ยม ใจรัมย์ ผู้เป็นแม่ เล่าว่า เมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งเป็นชาวพิษณุโลก โพสต์เฟซบุ๊คมาหาลูกชายว่าต้องการหาคนมารับเป็นพ่อเด็กที่หญิงคนนั้นกำลังตั้งท้องได้ 6 เดือน เมื่อลูกชายเห็นจึงอยากจะไปรับผิดชอบ จากนั้นก็เดินทางไปหาพร้อมกับจดทะเบียนสมรสในช่วงที่หญิงคนดังกล่าวกำลังคลอดลูก โดยลูกชายก็ลางานไปเฝ้าอาการถึง จ.พิษณุโลก แล้วพากันมาอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ แต่ล่าสุดทั้งสองได้เกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน ฝ่ายหญิงจึงหอบลูกหนีไป จ.พิษณุโลก แล้วติดต่อไม่ได้ทำให้ลูกชายเกิดความเครียดนอนไม่หลับเพราะคิดถึงฝ่ายหญิง ประกอบกับเคยได้ยินลูกชายบ่นว่าไม่มีเงินจะไปไถ่ถอนรถจักรยานยนต์ที่ไปจำนำไว้ จนมาก่อเหตุปีนเสาโทรศัพท์เพื่อหวังจะฆ่าตัวตายประชด โดยก่อนหน้านี้ลูกชายก็เคยพยายามผูกคอตายที่บ้านมาแล้วแต่โชคดีที่มีคนไปเห็นจึงช่วยไว้ได้ทัน