THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

16 พฤศจิกายน 2561 : 16:04 น.

มท.1 นำข้าราชการมหาดไทย ถวายผ้าพระกฐินพระราชทานวัดตูม (พระอารามหลวง) วัดโบราณ วัดโบราณสร้างมาก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี

เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่วัดตูม (พระอารามหลวง) หมู่ที่ 3 ต.วัดตูม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานของกระทรวงมหาดไทย ประจำปี 2561 โดยมี นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ข้าราชการ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนบริษัท ห้างร้าน และประชาชนผู้มีจิตศรัทธา เข้าร่วมในพิธีฯจำนวนมาก

พล.อ. อนุพงษ์ เปิดเผยว่า การถวายผ้าพระกฐิน เป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลานาน และควรที่จะอนุรักษ์และส่งเสริมให้คงอยู่สืบไปเพื่อเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สำหรับปี 2561 นี้ กระทรวงมหาดไทยได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานผ้าพระกฐินไปทอดถวายยังพระอารามหลวง ณ วัดตูม (พระอารามหลวง)โดยพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานในวันนี้ ประกอบด้วย พิธีถวายเครื่องบริวารพระกฐินพระราชทาน ได้แก่ บาตร เครื่องอัฐบริขาร ตาลปัตรฯ และเครื่องไทยธรรม แด่พระสงฆ์รูปที่ครองผ้า และถวายเงินที่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลแด่เจ้าอาวาสเพื่อถวายแด่พระภิกษุ สามเณร เพื่อนำไปบูรณปฏิสังขรณ์พระอาราม หรือทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของวัด พร้อมทั้งมอบเงินให้แก่โรงเรียนวัดตูม และโรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย เพื่อเป็นทุนบำรุงการศึกษาแก่นักเรียน

สำหรับ ประวัติและความเป็นมาของวัดตูม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวง ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 วัดตูมนี้ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง และสร้างตั้งแต่เมื่อไร ทราบกันแต่เพียงว่าเป็น วัดโบราณครั้งเมืองอโยธยา สร้างมาก่อนที่จะตั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และเป็นวัดร้างเมื่อคราวเสียกรุงฯ ในปี พ.ศ. 2310 มาตั้งแต่ครั้งนั้น

ทั้งนี้ เมื่อครั้นถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ในรัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงได้มีผู้ปฏิสังขรณ์ขึ้น และเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษา และต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะเป็นพระอารามหลวง ดังในหนังสือทำเนียบพระอารามหลวงฉบับกรมธรรมการ พ.ศ.2465 กล่าวถึงประวัติของวัด ความว่า “113 วัดตูม พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เป็นวัดโบราณครั้งกรุงศรีอยุธยา เป็นวัดสำหรับลงเครื่อง”

อย่างไรก็ตาม พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทองปางมารวิชัยจำนวน 3 องค์ พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ทรงเครื่องปางมารวิชัย เรียกกันว่า “หลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์” หน้าตักกว้าง 87 เซนติเมตร สูง 150 เซนติเมตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูป มีลักษณะพิเศษคือ พระเศียรตอนเหนือพระนลาฏ (หน้าผาก) เปิดออกได้และพระเกศมาลาถอดได้ เมื่อปิดไว้ตามเดิมแล้วจะแนบสนิทเกือบเป็นชิ้นเดียวกันไม่ปรากฏรอยเลย ภายในพระเศียร เป็นบ่อกว้างลึกลงไปเกือบถึงพระศอ มีน้ำไหลซึมออกมาตลอดเวลาเหมือนหยาดน้ำเหงื่อ เป็นน้ำใสเย็นบริสุทธิ์ปราศจากมลทิน สามารถรับประทานได้ โดยปราศจากอันตรายใดๆ และไม่แห้งขาดหาย เชื่อว่าเป็น “น้ำศักดิ์สิทธิ์” เกิดขึ้นด้วยอำนาจอภินิหารบารมี สามารถบำบัดรักษาสรรพโรคภัยไข้เจ็บและบรรเทาทุกข์ร้อนให้ความสุขความร่มเย็นได้

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ