กรมการศาสนากำหนดจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี 4 กรกฎาคม 2566
กรมการศาสนากำหนดจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี 4 กรกฎาคม 2566
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า “เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 4 กรกฎาคม กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา กำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติถวายพระกุศล สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ โดยส่วนกลางร่วมกับวัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ จัดพิธีปลูกต้นไม้ พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ ในวันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.00 น. ณ วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี ในส่วนภูมิภาค ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด 76 จังหวัด จัดกิจกรรมตามความพร้อมของแต่ละพื้นที่ ประกอบด้วย จัดพิธีเจริญนวัคคหายุสมธัมม์ พิธีเจริญพระพุทธมนต์ นิทรรศการน้อมสำนึกในพระกรุณาธิคุณ และกิจกรรมตามมิติทางศาสนาในรูปแบบต่าง ๆ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า พระกรณียกิจด้านศาสนา เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวไทยว่าทรงปฏิบัติพระองค์ตามแนวทางพระพุทธศาสนา ด้วยทรงศีลทรงธรรม ทรงศึกษาธรรมะ ทรงปฏิบัติธรรม และทรงอุปถัมภ์ทำนุบำรุงพระศาสนาธรรมะประการสำคัญที่ทรงแสดงอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน คือ ความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ ที่พระราชทานต่อปวงชน เพื่อให้มีชีวิตที่ดีและปลอดภัย ฉะนั้นนอกจากพระจริยวัตรเพียบพร้อมแห่งขัตติยนารีไทยแล้ว ยังทรงมีน้ำพระทัยอันประเสริฐ ทรงมีความงดงามที่สามัญชนเรียกกันว่า “งามทั้งกายและใจ” ทรงได้รับการปลูกฝังด้านพระพุทธศาสนาจากพระราชบิดาและพระราชมารดามาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ จึงทรงมีพื้นฐานความรู้จากทั้งสองพระองค์ และได้ทรงศึกษาพระธรรมอย่างลึกซึ้ง ควบคู่กับการนำไปปฏิบัติอยู่เสมอ พระจริยวัตรอันงดงามยิ่งนี้ เป็นอีกด้านหนึ่งที่ชาวไทยมีความประทับใจ ด้วยดำรงพระองค์เป็น “พุทธมามกะ” และ “พุทธศาสนูปถัมภก” ผู้ซึ่งเปี่ยมด้วยพระศรัทธาอย่างแรงกล้า เอาพระทัยใส่บำรุงและผดุงพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาของชาติไทย ทรงปฏิบัติพระภารกิจในฐานะพุทธศาสนิกชนเป็นนิจ ทรงเคร่งครัดยึดมั่นดำรงธรรมะและทรงดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่พสกนิกรชาวไทยเสมอ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวเพิ่มอีกว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าว เพื่อส่งเสริมให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ร่วมกันทำความดีถวายเป็นพระกุศล แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ นำหลักธรรม คำสอนทางศาสนามาใช้ในการดำเนินชีวิตสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันเกี่ยวเนื่องกับสถาบันหลักของชาติ และเสริมสร้างความรักสามัคคีของประชาชนในชาติให้มั่นคง และเป็นการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรม และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ทำให้สังคมเกิดความสงบ ร่มเย็นและเป็นสันติสุขตลอดไป”