THAI NEWS

28 กุมภาพันธ์ 2566 : 17:47 น.

ครม. เห็นชอบเสนอผ้าขาวม้า ขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรม ที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก

ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. ๒๐๐๓ (Convention for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage 2003) ของยูเนสโก เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยในช่วงระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๕ ไทยได้เสนอมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ  เพื่อขอขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ จำนวนทั้งสิ้น ๕ รายการ คือ โขน (พ.ศ.๒๕๖๑) นวดไทย (พ.ศ. ๒๕๖๒) โนรา (พ.ศ. ๒๕๖๔) สงกรานต์ในประเทศไทย (จะพิจารณาในปี ๒๕๖๖) และต้มยำกุ้ง (จะพิจารณาในปี๒๕๖๘) โดย รายการ โขน นวดไทย และ โนราได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติของยูเนสโกแล้ว                   โดยคาดว่า รายการสงกรานต์ในประเทศไทย จะได้รับการประกาศในปี ๒๕๖๖ นี้ เป็นรายการต่อไป

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม เร่งยื่นเสนอรายการ ผ้าขาวม้า : ผ้าอเนกประสงค์ในวิถีชีวิตไทย ไปยังยูเนสโก ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2566 (ตามเอกสารแนวทางการอนุมัติตามอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Operational Directives for the implementation of the Convention for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage) หัวข้อที่ ๑.๑๕ กำหนดให้รัฐภาคียื่นเสนอรายการมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ จำเป็นต้องดำเนินการภายในเดือนมีนาคมของทุกปี) ดังนั้น จึงได้นำเสนอเข้าในวาระการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้เพื่อให้พิจารณาซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้เสนอผ้าขาวม้า : ผ้าอเนกประสงค์ในวิถีชีวิตไทย ขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ พร้อมเห็นชอบให้อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมเป็นผู้ลงนามในเอกสารที่จะเสนอต่อยูเนสโกในฐานะตัวแทนประเทศไทย

               สำหรับสาระสำคัญของการนำเสนอ ผ้าขาวม้า : ผ้าอเนกประสงค์ในวิถีชีวิตไทย  ต่อยูเนสโกคือ ผ้าขาวม้า เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ได้ประกาศขึ้นบัญชีเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๖ ผ้าขาวม้าเป็นผ้าที่ทอโดยใช้เทคนิคที่เรียบง่าย มักทอเป็นลายตารางหรือลายแถบที่มีสีสัน มีการย้อมสีและสามารถทอใช้ได้เองในครัวเรือน ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และคนหนุ่มสาว   อีกทั้งยังสามารถใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตได้อย่างหลากหลาย มีการใช้งานสารพัดประโยชน์ทั้งในชีวิตประจำวัน และในประเพณีพิธีกรรมสำคัญต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านของชีวิต ตลอดจนเป็นของกำนัล แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของท้องถิ่นไทย  โดยมีการถ่ายทอดภูมิปัญญาที่สืบทอดมาอย่างยาวนานโดยส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งในครอบครัว ในโรงเรียน  ในศูนย์ทอผ้าของชุมชนในท้องถิ่นและมีการพัฒนาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใช้สอยและสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำใหม่ช่วยส่งเสริมความรับผิดชอบต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม  นอกจากนี้ผ้าขาวม้ามีความสอดคล้องกับลักษณะของมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ตามนิยามในอนุสัญญาฯ ใน ๓ ลักษณะ กล่าวคือ ๑) การปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรมงานเทศกาล ๒) ความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล และ  ๓) งานช่างฝีมือดั้งเดิม และสอดคล้องกับเกณฑ์ประเภทรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ของยูเนสโก 

             ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม มีแผน จะเสนอรายการผ้าขาวม้า : ผ้าอเนกประสงค์ในวิถีชีวิตไทย เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโกโดยคาดว่าจะได้รับการพิจารณาต่อจากรายการ ต้มยำกุ้ง ซึ่งคาดว่าประมาณปี พ.ศ.๒๕๗๐

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ