บุรีรัมย์-สาวท้องติดโควิดสุดทนอัดคลิประบายความลำบากขณะรักษาตัวใน รพ.สนาม อัดยับรับไม่ได้ที่ต้องรุมแย่งข้าวกันกินเหมือนซอมบี้

จากกรณีที่หญิงท้องรายหนึ่งโพสต์คลิปในแอพพลิเคชั่น Tik Tok ระบายถึงความลำบากในการเข้าไปรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสนามตั้งแต่วันแรก โดยได้ถ่ายคลิปพร้อมบรรยายตั้งแต่ห้องน้ำที่สกปรก อาหารไม่เพียงพอต้องแย่งกัน น้ำดื่มไม่เพียงพอ รวมถึงของฝากที่ญาติฝากมาให้ก็ไม่ได้รับ และการจ่ายยาไม่คำนึงถึงสภาพของผู้ป่วยทั้งๆที่ย้ำกับหมอว่า“ตั้งท้อง” แค่จ่ายยาฟ้าทะลายโจรมาให้รับประทาน

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งใน ต.พระครู อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พบ น.ส.น้อง อายุ 29 ปี หญิงตั้งครรภ์ที่อัดคลิประบายความลำบากใน รพ.สนาม โดย น.ส.น้อง เปิดใจว่า สาเหตุที่อัดคลิประบายความรู้สึกเนื่องจากเครียดที่ต้องไปเจอกับสภาพแบบนั้นในขณะที่ตนเองตั้งท้องอยู่ ประกอบกับหิวข้าว เพราะเจ้าบอกว่าคนท้องไม่ควรจะรักษาตัวเองที่บ้านเพราะเสี่ยง ต้องไปอยู่ใกล้หมอจะปลอดภัย  แต่พอเข้าไปรักษาตัวใน รพ.สนาม ทั้งสภาพพื้นที่ที่ไม่สะอาด ยาที่ให้รับประทานก็ไม่ได้ต่างจากการรักษาตัวที่บ้าน อาหารที่ให้ไม่เพียงพอเวลาเอาข้าวมาแจกก็ต้องแย่งกันเหมือนกับซอมบี้ในภาพยนต์ ใครมาช้าก็ไม่ทันต้องรอรอบต่อไปถึงได้กิน ของฝากที่ญาตินำมาฝากไว้บางอย่างห้าม ให้ฝากเป็นมาม่าแต่กระติ๊กน้ำร้อนก็มีแค่อันเดียว

ทั้งนี้ กรณีที่เกิดอัดคลิปตนไม่ได้มีเจตนาจะต่อว่าใคร แค่อยากระบาดจากสภาพในรพ.สนามที่ได้พบเจอกับตัวเอง ก็อยากให้มีการแก้ไขปรับปรุงทั้งเรื่องความสะอาด และอาหารควรจะจัดระบบให้ดีกว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องยาที่จ่ายให้คนไข้ควรจะตรวจสอบให้ดีกว่านี้ไม่ใช่เอายาฟ้าทะลายโจรมาให้คนท้องกิน แต่โชคดีที่ตัวเองไม่ได้กิน

ขณะที่สาธารณสุขจ.บุรีรัมย์ ได้ออกหนังสือชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ตามที่ปรากฏว่ามีการเผยแพร่ผ่านระบบคอมพิวเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์  เรื่องกรณีการเรื่องร้องเรียนของหญิงตั้งครรภ์ 1 เดือน กักตัวที่ โรงพยาบาลสนาม ใน จังหวัดบุรีรัมย์  ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ขอชี้แจงดังนี้   สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ และโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ได้ปรับปรุงเรื่อง อาหาร และห้องสุขา ตามที่ร้องเรียน และขณะนี้ได้ให้ทางเลือกการรักษาและผู้ป่วยรายดังกล่าวไปกักตัวที่บ้านแล้ว  จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน

ขณะที่ นพ.พิเชษฐ์ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ป่วยโควิดคนนี้ท้องประมาณ 1 เดือนเศษ ในความเป็นจริงหากเป็นผู้ป่วยที่ท้องตามแนวทางการรักษาของจังหวัด จะนำผู้ป่วยไปรักษาในโรงพยาบาล เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยง โดยคาดว่าน่าจะมีปัญหาในจุดคัดกรอง ซักประวัติ สื่อสารกันผิดพลาด เนื่องจากโรงพยาบาลสนามจุดนี้โรงพยาบาลบุรีรัมย์ดูแลอยู่ มีผู้ป่วยที่รักษาอยู่กว่า 900 คน ก็อาจทำให้ผู้ป่วยหลุดเข้ามารักษาในระบบโรงพยาบาลสนาม

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบยังไม่ได้รับรายงานว่า สาวท้องที่ติดโควิดกินยาฟ้าทะลายโจรไปแล้วหรือไม่  ถ้าหากกินไปแล้วก็ต้องหยุดกินทันที อย่างไรก็ตามหากดูตามแนวทางการใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิด มีข้อห้ามใช้ในกลุ่มคนท้อง เพราะมีโอกาสที่จะส่งผลกระทบต่อเด็กในครรภ์ทำให้ทารกผิดปกติได้ ส่วนปัญหาเรื่องความสะอาดยอมรับมีปัญหาบ้างเพราะคนไข้มาก ได้สั่งการให้เข้าไปแก้ไขแล้ว เช่นเดียวกับเรื่องของอาหารการกิน ขณะนี้มีจำนวนที่เพียงพอกับผู้ป่วยทุกคน หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวผู้ป่วยที่ท้องก็กลับไปรักษาตัวที่บ้านแล้ว อาการยังแข็งแรงดี และมีแพทย์ อสม.แวะเวียนไปติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง