ไทยเบฟฯ ประกาศยุทธศาสตร์ 2 ปีเร่งสร้างโอกาสโตอาเซียน เปิดเกมบุกสินค้ากลุ่มเบียร์-สุรา ล่าสุดผุดโรงงานเบียร์พม่า1,800ล้าน

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ในกลุ่มเจริญ สิริวัฒนภักดี เปิดเผยว่า วิชั่น 2020 ต้องการสร้างโอกาสธุรกิจในอาเซียน เพราะผลิตภัณฑ์มวลรวมหรือจีดีพีของภูมิภาคขยายตัว 6.5% บริษัทเฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ จึงลงทุนกว่า 1,800 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตเบียร์ที่เมียนมาร์ กำลังผลิตปีละ 50 ล้านลิตร และสามารถผลิตได้ถึงปีละ 120 ล้านลิตร

ทั้งนี้ การสร้างโรงงานเบียร์ที่เมียนมาร์ เป็นจิ๊กซอร์บุกธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในอาเซียน เนื่องจากตลาดมีปริมาณถึง 400 ล้านลิตร มีศักยภาพเติบโตอีกมาก เพราะอัตราดื่มเบียร์แค่ 7.5 ลิตร/คน/ปี โดยจะเปิดตัวเบียร์ในเมียนมาร์เดือนต.ค.ปีหน้า จากก่อนหน้าไทยเบฟ ซื้อหุ้น 53.59% ในซาเบโก ที่เวียดนาม ส่งผลให้ไทยเบฟฯ เป็นผู้นำมีส่วนแบ่ง 24% ในตลาดเบียร์อาเซียนและการลงทุนพม่าผลักดันส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น

นายฐาปน กล่าวว่า ทางกลุ่มได้ปรับโครงสร้างองค์กร โดยตนเข้ามาเป็นผู้บริหารสูงสุดของกลุ่มธุรกิจเบียร์ เพื่อซินเนอร์จี้สินค้าในพอร์ตโฟลิโอทั้งไทยเบฟกับซาเบโก เช่น ลดต้นทุนวัตถุดิบจากการซื้อร่วมกัน หรือนำเวียดนามเข้ามาทำตลาดไทย เพื่อเสริมความหลากหลาย ซึ่งบริษัทยังเป็นอันดับ 2 ในไทยมีส่วนแบ่ง 40% แต่เป้าหมายต้องการเป็นอันดับหนึ่งในปี 2563

ด้านกลุ่มธุรกิจสุรา บริษัทได้เข้าไปร่วมลงทุน 51% กลุ่มเอเชียยูโร อินเตอร์เนชั่นแนล เบฟเวอเรจ วางแผนนำวิสกี้ระดับพรีเมี่ยมจากสก็อตแลนด์ และเหล้าพระยาของไทยเข้าไปทำตลาดในจีน รวมทั้งนำไวท์สปิริตเข้ามาเปิดตลาดในไทย ส่วนธุรกิจอาหารมีแผนลงทุน 400 ล้านบาท ขยายสาขาธุรกิจอาหาร 27 แบรนด์ราว 50 สาขา/ปี จากปัจจุบันมี 562 สาขา

สำหรับ รายได้จากต่างประเทศสัดส่วน 40% มาจากกลุ่มอาเซียน 36% และประเทศอื่นๆ 4% ส่วนภายในประเทศ 60% เป้าหมายปี 2563 คาดสัดส่วนรายได้เป็น 50:50 ขณะที่รายได้ของบริษัทไทยเบฟเวอเรจ 9 เดือน ราว 1.73 แสนล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มสุรา 47.4% เบียร์ 40.1% นอนแอลกอฮอล์ 7.2% และกลุ่มธุรกิจอาหาร 5.4%