นักลงทุนต่างชาติกังวลหลังไทยประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินส่งผลกระทบตลาดหุ้นไทย
บลูมเบิร์กรายงานว่า ขณะนี้ความกังวลทางการเมืองในประเทศไทยปะทุขึ้นอีกครั้งหลังมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในกรุงเทพมหานครซึ่งส่งผลกระทบต่อนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทย โดยตลาดหุ้นไทยในวันที่ 15 ตุลาคม ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ลดลง 21.03 จุด หรือลดลง 1.66%
หลังมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในกรุงเทพมหานครเพื่อระงับการประท้วงที่ทวีความรุนแรง ส่งผลให้นักลงทุนมองว่ากองทุนทั่วโลกอาจลดการถือครองหุ้นในประเทศไทย โดยในปี 2020 ชาวต่างชาติดึงเงินสุทธิไปแล้ว 912,000 ล้านเหรียญสหรัฐจากหุ้นในประเทศไทย ส่งผลให้เงินไหลออกของไทยในปีนี้ทำลายสถิติในปี 2018
ไอรีน จาง นักวิเคราะห์กลยุทธ์การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในสิงคโปร์ของธนาคารออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิง กรุ๊ป มองว่าในระยะอันใกล้นี้เงินบาทมีแนวโน้มต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเนื่องจากการประท้วงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ บริษัททิสโก้ กล่าวว่าไทยมีแนวโน้มผลประกอบการที่เลวร้ายมากซึ่งจะไม่ดึงดูดชาวต่างชาติให้มาลงทุน รวมถึงสภาพแวดล้อมทางการเมืองจะเพิ่มความเสี่ยงด้านลบ
ขณะที่ ประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ หัวหน้านักลงทุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทาลิส เผยว่าไทยจะไม่เป็นทางเลือกของนักลงทุนต่างชาติเพราะพวกเขากังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงทางการเมืองของไทย