กมธ.งบประมาณจากพรรคพลังประชารัฐแนะให้รัฐบาลฟังเสียงสะท้อนจากสังคมในการใช้งบซืื้อเรือดำน้ำ ชี้ประเทศชาติกำลังมีปัญหาเศรษฐกิจและโควิด-19 จำเป็นต้องใช้งบ
เมื่อวันที่ 24 ส.ค.น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 64 กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การผ่านงบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือของอนุกรรมาธิการฯว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นงบประมาณผูกพันจริง แต่ส่วนตัวมองว่า วันนี้ปัญหาเศรษฐกิจและระบบสาธารณสุขที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายงบประมาณถือเป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลจะต้องพิจารณาให้รอบคอบถี่ถ้วนว่าจะใช้งบประมาณอย่างไร ในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนและเยียวยาเศรษฐกิจของประเทศ ให้พ้นจากวิกฤติโดยเร็วที่สุด
อย่าไรก็ตาม วันนี้ประชาชนจนถึงภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะเอสเอ็มอีหรือธุรกิจขนาดใหญ่ต่างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงอยากให้รัฐบาลรับฟังเสียงสะท้อนจากสังคม และใคร่ครวญในส่วนของงบประมาณต่างๆ ซึ่งในการพิจารณางบประมาณ ขณะนี้อยู่ในช่วงที่อนุกรรมาธิการและกรรมาธิการพิจารณา ซึ่งในบ่ายวันนี้กองทัพเรือก็จะออกมาชี้แจงรายละเอียดดังกล่าว ส่วนการทำงานของกรรมาธิการและสภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณารายละเอียดในงบประมาณส่วนนี้อีกเช่นเดียวกัน แต่ในส่วนของรัฐบาลก็ต้องคำนึงถึงเสียงของประชาชน
ทั้งนี้ หลังจากนี้กรรมาธิการจะต้องมีการหารือกันเพราะ กรรมาธิการคณะใหญ่มีถึง 78 คน และมีตัวแทนจากทั้งพรรคการเมืองฝั่งรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน กระบวนการทำงานก็ต้องฟังเสียงส่วนรวม ซึ่งในวันพุธที่ 26 ส.ค. กรรมาธิการจะพิจารณางบต่างๆที่ 8 คณะอนุกรรมาธิการได้พิจารณาแล้ว เพื่อพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง ซึ่งคงต้องติดตามว่า หลังการพิจารณารายละเอียดแล้ว กรรมาธิการคนอื่นๆจะมีความเห็นต่องบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำอย่างไร