ซีพี เฟ้นหาเยาวชนนักเตะช้างเผือก สู่เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ
จากแนวคิดของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ว่า "การพัฒนาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้า" หัวใจสำคัญคือการพัฒนาคนให้มีคุณภาพและมีความสามารถในการเรียนรู้ บนพื้นฐานการมีสุขภาพที่แข็งแรงและสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ จึงมุ่งมั่นส่งเสริมการศึกษา พัฒนาความสามารถ เสริมสร้างศักยภาพของเด็กไทยทุกช่วงวัย ตามเป้าหมายหนึ่งของการพัฒนาที่ยั่งยืนของเครือฯ คือมุ่งมั่นสร้างสังคมที่ยั่งยืนกว่า 40 ปี ที่มีโครงการต่างๆ มากมาย อาทิ พัฒนาโรงเรียนเจียรวนนท์อุทิศ, ทุนการศึกษา ระดับอุดมศึกษา ทรูปลูกปัญญา เป็นต้น และเมื่อไม่นานามานี้มีโครงการ “ซีพี สานฝัน...ปันโอกาส” ปั้นเยาวชนเข้าสโมสรฟุตบอลอาชีพ เพื่อสานฝันเยาวชนไทยที่มีใจรักฟุตบอลให้เติบโตเป็นนักฟุตบอลอาชีพในอนาคต
นายขจร เจียรวนนท์ กรรมการบริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานสโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในฐานะผู้ดำเนินโครงการฯ เล่าให้ฟังว่า เครือซีพีได้ร่วมกับสโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้จัดทำโครงการ “ซีพี สานฝัน...ปันโอกาส” ปั้นเยาวชนเข้าสโมสรฟุตบอลอาชีพ ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดี จากเด็กๆ และพ่อแม่ผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก โดยเปิดรับสมัครน้องๆ เยาวชน อายุ 10-11 ปี จากทั่วประเทศ สำหรับปีนี้ มีน้องๆ สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 5,000 คน จาก 8 สนาม 7 จังหวัด ทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งได้มีการคัดเลือกรอบแรกเหลือ 83 คน เพื่อเข้าแคมป์คัดเลือกในรอบสุดท้าย จากนั้นเราได้มีการคัดเลือกเด็กที่มีฝีเท้าดีที่สุด กระทั่งเฟ้นหาช้างเผือกได้ 20 แข้งดาวรุ่ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลักเกณฑ์ในการพิจารณาตัดสิน อันดับแรกคือ สภาพความแข็งแรง ความสมบูรณ์ของร่างกาย รวมถึงพรสวรรค์ และทักษะของน้องๆ ในการเล่นฟุตบอล โดยมี แดเนียล อินวิน ซิบิเล่ Academy Director, True BUFC Academy อดีตนักฟุตบอลเยาวชนทีมชาติออสเตรเลีย เป็นหัวหน้าทีมในการทดสอบมาตรฐาน ที่พิเศษในปีนี้คือเราจะวัดเรื่องทัศนคติด้วย โดยน้องๆ จะต้องมีน้ำใจนักกีฬา มีระเบียบวินัย อีกทั้งยังมีการวัดภาวะความเป็นผู้นำ รวมถึงการเล่นเป็นทีม และมีความมุ่งมั่น ซึ่งเราได้มีการทดสอบตามมาตรฐานระดับโลก
สำหรับเป้าหมายในอนาคต ต้องการให้น้องๆ ก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลระดับอาชีพ ในลีกและทีมชาติไทย โดยเฉพาะเป้าหมายใหญ่ คือการไปเป็นเป็นนักฟุตบอลลีกอาชีพที่ประเทศญี่ปุ่น หรือก้าวสู่เป้าหมายระดับโลกต่อไป จากผลงานที่ผ่านมา รุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 มีเยาวชนนักเตะหลายคนสร้างผลงานที่โดดเด่นนำความภาคภูมิใจและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย อาทิ รุ่นที่ 1 จำนวน 6 คน ได้ร่วมทีมฟุตบอลโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย คว้าแชมป์โลกรายการนอร์เวย์คัพ 2018 และ รุ่นที่ 2 จำนวน 3 คน ได้รับการคัดเลือกเป็นเยาวชนทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี และสามารถคว้าแชมป์ในรายการ Toyota International Junior Cup 2018 ที่ประเทศญี่ปุ่น นับเป็นก้าวแรกของความสำเร็จของน้องๆ ที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีและความมุ่งมั่นที่จะเดินตามความฝันต่อไป ซึ่งรางวัลดังกล่าว ทำให้เรามีกำลังใจในการปั้นน้องๆ และดำเนินโครงการนี้ต่อไปอย่างต่อเนื่อง และคาดว่ากีฬาฟุตบอลไทยจะผงาดขึ้นไปในระดับโลกได้
ด้าน ดร.วัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี ผู้จัดการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย กล่าวว่า รู้สึกยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้มีส่วนร่วมในอีกหนึ่งกิจกรรมที่ตอบแทนสังคม เพราะโครงการฯ ที่ผ่านมา ได้นำน้องๆ ที่ผ่านการคัดเลือกมาเข้าศึกษาและร่วมเป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน ทำให้โรงเรียนมีนักฟุตบอลที่มีฝีเท้าที่ดีเพิ่มขึ้น พร้อมที่จะผลักดันสู่ระดับอาชีพต่อไป จุดแข็งของโรงเรียนเรา คือ มีประสบการณ์ในการพัฒนานักกีฬาฟุตบอลระดับเยาวชนมายาวนานกว่า 30 ปี ทั้งยังมีเครือข่ายพันธมิตร ทั้งที่ประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และนอร์เวย์ ที่น้องๆ จะมีโอกาสได้ไปเปิดประสบการณ์ ประชันฝีเท้า เพื่อเพิ่มศักยภาพ และยังเป็นสถาบันที่บ่มเพาะนักฟุตบอลอีกด้วย
ด.ช.ชยดล อาทิตย์ วัย 11 ปี จาก จ.กรุงเทพฯ 1 ใน 20 ช้างเผือกที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการรุ่นที่ 3 ได้ร่วมเผยความรู้สึกด้วยว่า ดีใจมากๆ ที่ผ่านการคัดเลือก ขอขอบคุณกลุ่มซีพีและผู้ร่วมสนับสนุนโครงการดีๆ แบบนี้ ผมอยากให้มีโครงการนี้ต่อไป เพราะยังมีเด็กๆ ที่มีความฝันแบบผมอีกเยอะมากจะได้รับโอกาสเหมือนผม ผมจะตั้งใจเรียน ขยันฝึกซ้อม เพื่อสานต่อความฝันของคุณพ่อ ที่อยากให้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ และติดทีมชาติให้ได้ครับ
ขณะที่ ด.ช.ณัฐกันต์ เอี่ยมสร้างกี้ จาก จ.ภูเก็ต เล่าด้วยรอยยิ้มว่า ดีใจมากๆ ครับ ที่วันนี้ฝันของผมเป็นจริง เพราะผมชอบเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่ 5 ขวบ ตอนนี้ 11 ขวบแล้ว ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่ให้โอกาส ผมจะตั้งใจเรียน ตั้งใจฝึกซ้อม และหาประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด เพื่อพัฒนาตัวเอง เพราะอยากติดทีมชาติ
ปิดท้ายที่ ด.ช.พงศ์เพชร เอี่ยมสะอาด หนุ่มน้อยจาก จ.สมุทรปราการ บอกว่า “ดีใจมากๆ ครับ ที่ผ่านการคัดเลือก เพราะผมสมัครมาเป็นปีที่ 2 แล้ว ครั้งแรกไม่ผ่านแต่ก็ไม่เสียใจ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าเราจะต้องมีวินัยมากขึ้น ต้องกลับไปฝึกซ้อมให้หนักขึ้นกว่าเดิม พอมาครั้งนี้ก็สมหวัง ผมสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน จะขยันฝึกซ้อม เพื่อตอบแทนพระคุณผู้ใหญ่ใจดีที่สานความฝัน และให้โอกาสผม และขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ที่ยังไม่ผ่านการคัดเลือกในครั้งนี้ ไม่ต้องเสียใจ ขอให้อดทน อย่าหมดความหวัง กลับไปฝึกฝนมาใหม่ ปีหน้ายังมีโอกาส เรากลับมาใหม่ได้ครับ อย่างผมก็ต้องกลับไปฝึกมาใหม่ วันนี้ถึงสมหวัง อย่ายอมแพ้นะครับเพื่อนๆ สู้ๆ”
ขอร่วมเป็นกำลังใจให้น้องๆ ช้างเผือกทั้ง 20 คน ที่ได้เข้าร่วม โครงการ “ซีพี สานฝัน...ปันโอกาส” รุ่นที่ 3 ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน เพื่อให้เยาวชนเหล่านี้ได้เดินตามความฝัน สู่เส้นทางนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ ดูแลตัวเอง ดูแลครอบครัว แม้ว่าผลสำเร็จของโครงการนี้อาจจะต้องใช้เวลา แต่สำคัญที่สุด คือ ความมุ่งมั่น และการใช้ศักยภาพเต็มกำลังที่มี ร่วมสานความหวังให้ฟุตบอลไทยก้าวไกลในระดับโลกต่อไป